สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังฝนหยุดตก แต่ยังมีบางจุดที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่
เมื่อวันที่ 3 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายว่า หลังจากมีฝนตกหนักทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลหลาก ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่ บ้านวังยางล่าง ต.กุยบุรี บริเวณริมแม่น้ำกุยบุรี น้ำท่วมถนนเข้าหมู่บ้านสูงกว่า 2 เมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่ทหารจากชุดเฉพาะกิจจงอางศึกต้องใช้รถ 6 ล้อสูง เพื่อนำอาหารไปแจกจ่าย รวมทั้งนำประชาชนกว่า 60 ครอบครัวขนย้ายสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปอาศัยชั่วคราวที่ศาลาวัดวังยาว เพื่อติดตามสถานการณ์หลังจากน้ำป่ายังไหลบ่าต่อเนื่อง สำหรับสัตว์เลี้ยงได้นำไปเลี้ยงชั่วคราวภายในลานวัดโดยเจ้าหน้าที่จากสถานีอาหารสัตว์กุยบุรีได้นำหญ้าแห้งมาแจกจ่าย
ขณะเดียวกันได้มีน้ำป่าไหลบ่าเข้าบ้านปากเหมือง บ้านโพธิ์เรียง ต.กุยเหนือ ต.สามกระทายทั้งตำบลน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 70 เซนติเมตร – 1.50 เมตร ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากและมีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ล่าสุดอยู่ระหว่างการสำรวจการสำรวจเพื่อให้การช่วยเหลือเร่งด่วน นอกจากนี้น้ำป่าไหลท่วมผิวการจราจรบนถนนเพชรเกษม ขาเข้า กทม. ระหว่างหลัก กม.ที่ 278 – 279 ที่บ้านสำโหรง ต.สามกระทาย ทำให้การจราจรติดขัดบางช่วง อล่างไรก็ตาม ล่าสุดไม่มีฝนตกเพิ่มสถานการณ์ได้เริ่มคลี่คลายแล้ว
นายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี กล่าวว่า ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำยางชุมยังมีน้ำล้นสปิลเวย์ประมาณ 50 ซม.ยืนยันว่าสภาพเขื่อนยังมีความแข็งแรง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เร่งระบายน้ำ อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันฝนตกเพิ่มเหนืออ่าง ทำให้มีน้ำไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใกล้แม่น้ำกุยบุรีตลอดแนวได้รับกระทบ
นายกาญจนพันธ์ คำแหง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่า ได้ประกาศปิดการท่องเที่ยวเพื่อชมช้างป่าในอุทยานฯเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เนื่องจากเส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปชมช้างป่าถูกน้ำป่าพัดขาดหลายช่วง