ส.ส.ก้าวไกล ฝาก กกต. รายงานผลเลือกตั้งเรียลไทม์

2023-01-13 14:40:44

ส.ส.ก้าวไกล ฝาก กกต. รายงานผลเลือกตั้งเรียลไทม์

Advertisement

ส.ส.ก้าวไกล ฝาก กกต. พัฒนาแอปพลิเคชันรายงานผลเลือกตั้งเรียลไทม์  กรอบวงเงิน  20 ล้านไม่แพง ลงทุนครั้งเดียวใช้ได้ตลอด

เมื่อวันที่ 13 ม.ค.66 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. เขตบางแค พรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงว่า กกต. ไม่มีระบบรายงานผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ หรือการรายงานผลเรียลไทม์ กลับยืนยันด้วยปากเปล่าเพียงว่าจะรู้คะแนนเลือกตั้งประมาณ 21.00-22.00 น. หลังปิดหีบ และยังกล่าวถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันระบบรายงานผลมูลค่า 20 ล้านบาท ซึ่งทาง กกต. มองว่าราคาของระบบดังกล่าวนั้นสูงเกินไป

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ กกต. ออกมาพูด คล้ายกับเป็นข้ออ้างว่าองค์กรยังไม่มีแอปพลิเคชันที่พร้อมจะนำไปใช้งานในการรายงานผลแบบเรียลไทม์ แต่ขณะเดียวกันอาจสะท้อนด้วยว่า กกต. ไม่อยากให้มีระบบที่สามารถรายงานผลคะแนนได้อย่างโปร่งใสหรือไม่ ทั้งที่การจัดเลือกตั้งให้โปร่งใสเป็นหน้าที่ของ กกต. หากไม่มีระบบดังกล่าว ประชาชนจะเกิดความกังวลว่าไม่เห็นคะแนนหลังปิดหีบระหว่างทาง ไม่รู้เลยว่าผลคะแนนสุดท้ายได้เพิ่มขึ้นหรือลดลง เช่นการเลือกตั้ง 2562 เกิดข้อครหาเรื่องบัตรเขย่ง ผลคะแนนไม่ตรงกัน แต่ถ้ามีการรายงานผลคะแนนต่อเนื่อง จะช่วยให้สื่อมวลชนและประชาชนเห็นความคืบหน้าการนับคะแนน ร่วมกันตรวจสอบ เปรียบเทียบระหว่างผลคะแนนที่ได้กับผลลัพธ์สุดท้ายได้ ซึ่งผลทั้งสองควรจะใกล้เคียงกัน

“ระบบการรายงานผลเลือกตั้งแบบเรียลไทม์ เป็นสิ่งที่ต้องมี เพราะจะทำให้สังคมสิ้นข้อสงสัยและยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าพูดถึงแอปพลิเคชันแทบจะไม่ต้องผลิตใหม่ เพราะมีแอปฯ ที่พร้อมใช้งานของภาคประชาสังคมทำไว้เยอะแล้ว แค่อาศัยการออกระเบียบให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง สามารถรายงานผลคะแนนผ่านแอปฯ เหล่านั้นได้ ก็จะแสดงผลเรียลไทม์ได้ทันที อยู่ที่ กกต. ตั้งใจจะทำหรือเปล่า" นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า กกต. ต้องไม่ลืมว่าตัวเองมีชนักติดหลัง คือข้อครหาว่ามีที่มาที่ยึดโยง คสช. ดังนั้น หากต้องการพิสูจน์และปกป้องตัวเอง กกต. ต้องทำหน้าที่อย่างโปร่งใส ให้คำตอบประชาชนก่อนเลือกตั้งว่าจะมีระบบการรายงานผลเลือกตั้งแบบเรียลไทม์หรือไม่ แต่หากสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องตัดสินใจผ่านการเลือกตั้ง เลือกพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ทำให้องค์กรอิสระทุกองค์กรยึดโยงประชาชน ในอนาคตถ้า กกต. ปฏิบัติหน้าที่อย่างน่าสงสัยแบบที่เป็นอยู่ ประชาชนสามารถถอดถอนได้

ด้านนายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขอฝากไปถึง กกต. การพัฒนาแอปพลิเคชันรายงานผลเรียลไทม์ ภายใต้กรอบวงเงินการพัฒนาในราคา 20 ล้านบาท ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เพราะการพัฒนาระบบนี้แลกมากับความเชื่อถือของการรายงานผลที่โปร่งใสและรวดเร็ว เป็นการลงทุนครั้งเดียวที่ใช้ได้ไปตลอด หากเทียบกับสิ่งที่ กกต. เคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันอย่าง ตาสับปะรด หรือ Civic Education หรือแม้แต่แอปดาวเหนือ กกต. ก็สามารถหางบประมาณมาทำได้ตลอด หรือต่อให้ไม่มีงบประมาณ กกต. ก็สามารถแสวงหาความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐหรือเอกชนได้ ไม่ว่าจะเป็น Vote62 หรือ Elect หรือสถาบันพระปกเกล้า ดังนั้น เพื่อความโปร่งใส กกต. ต้องเร่งจัดหาเครื่องมือการรายงานผลให้ได้โดยเร็วที่สุด

นายปดิพัทธ์ กล่าวอีกว่า กกต. ควรแสดงความพร้อมในการจัดเลือกตั้งให้มากกว่านี้ เพราะตอนนี้แม้จะใกล้วันเลือกตั้ง แต่ กกต. ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนเรื่องการแบ่งเขต ไม่มีความพร้อมเรื่องแอปพลิเคชันรายงานผล ทั้งหมดนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือขององค์กรจัดการเลือกตั้งยิ่งถดถอย วันนี้ประชาชนต้องการฟื้นฟูประเทศด้วยฉันทามติ โดยมีการเลือกตั้งเป็นคำตอบ เขาตระหนักรู้แล้วว่าบทเรียนเมื่อปี 2562 นำไปสู่ความล้มเหลวในกระบวนการทางรัฐสภา ดังนั้น หาก กกต. ยังนิ่งเฉย และทำเรื่องที่ซ้ำรอยความล้มเหลวในอดีต ตนก็คิดว่าสังคมไทยคงไปต่อยาก

“สุดท้ายที่อยากฝากถึง คือรัฐสภาได้เรียกร้องให้ กกต. เปิดกว้างให้นักศึกษาหรือคนที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี มาช่วยสอดส่องหน่วยเลือกตั้งหลังมีการอบรมด้านกฎหมายเลือกตั้ง เพราะเป็นที่ทราบกันมาโดยตลอดว่าหน่วยเลือกตั้งหลายจุดกลายเป็นสถานที่อื้อฉาว กลายเป็นแหล่งรวมหัวคะแนนของรัฐบาล และกลายเป็นกลไกของกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นจึงอยากให้มีความโปร่งใสเกิดขึ้นตลอดการเลือกตั้ง” นายปดิพัทธ์ กล่าว