"ชูวิทย์"ชี้จุดเปลี่ยนคดี "ตู้ห่าว"พบนายกฯแค่ 3 วันคดีเดินหน้าอย่างรวดเร็ว จากนี้ไปถึงตา "ผู้แทน" ได้ทำงาน เผย ผบ.ตร. นำสำนวนคดี "จินหลิง" มาส่งอัยการสูงสุดจุดเริ่มต้นใหม่ของการต่อสู้ที่ศาล มั่นใจว่าท้ายที่สุดประชาชนต้องเป็นฝ่ายชนะ
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.66 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเพจ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า "จุดเปลี่ยน คดีตู้ห่าว" หลังจากประชาชนอย่างผมได้โอกาสพบนายกฯ ประยุทธ์เพียง 3 วัน เรื่องราวจีนเทาก็มาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ ผบ.ตร. ที่ดูเหมือนภายนอกอ่อน เริ่มแข็งเด้งรับทันควัน ตั้งแต่สั่งคดีฟอกเงินกับ พ.ต.อ.หญิง ภรรยาของตู้ห่าว และให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนคดีที่เรียกรับสินบน มีตำรวจ 5 นาย เป็นผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย รอง ผบก.น. 6 พร้อมพลขับ รอง ผกก.จราจร สน.ลาดพร้าว พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา อีก 2 นาย ได้ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และส่งสำนวนการดำเนินคดีไปที่ ป.ป.ช. ขณะที่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ก็มีคำสั่งให้ ตำรวจทั้ง 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนเรื่องหลานนายกฯ ประยุทธ์ ไปพัวพันกับธุรกิจรถทัวร์ของตู้ห่าว ผบ.ตร สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อมูลจาก ป.ป.ส. รถที่หลานนายกฯ ไปทำธุรกรรมเช่าซื้อกับตู้ห่าวมี 33 คัน กำลังประสานข้อมูลเพิ่มเติม
ส่วนคดีจินหลิง ผบ.ตร. ยืนยันว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร กระทำการเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีผู้ใหญ่ที่ผมเคารพเคยเตือนผมแล้วว่า ระบบราชการไทยนั้น หากต้องการให้ได้ผลแน่นอน ต้องไปที่จุดสูงสุดขององคาพยพหน่วยงานรัฐ คือ นายกรัฐมนตรี ตอนนั้นผมได้แต่นึกในใจว่า ประชาชนอย่างผมจะไปพบนายกฯ ประยุทธ์ได้ด้วยวิธีไหน?
ผมจึงไปนั่งอยู่ข้างถนนจนนายกฯ ให้เข้าพบ หลังจากนั้นทุกอย่างมันเดินหน้าอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ 3 วัน นับจากวันจันทร์ที่ 9 มาถึงวันนี้ พฤหัสที่ 12 เท่านั้น ใครจะว่าผมยังไงก็ช่าง ชูวิทย์จะหาทางลง ชูวิทย์เปลี่ยนไป ชูวิทย์ถูกนายกฯ เป่ากระหม่อม ผมไม่ได้โกรธ เพราะคนอย่างผมไม่ได้มีตำแหน่ง ไม่คิดเล่นการเมือง ไม่ได้หวังเติบโตใดๆ แต่ผมได้พูดประโยคหนึ่งที่ทำให้นายกฯ เข้าใจ "ท่านควรสั่งการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เพราะท่านเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว และสิ่งนี้จะพิสูจน์ถึงความจริงว่าท่านได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา" ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน ชูวิทย์ได้พิสูจน์ในนามประชาชนว่า ผมทำได้ดีที่สุดแล้ว
ต่อแต่นี้ไปถึงตา "ผู้แทน" ปวงชนชาวไทยได้ทำงาน เพราะกินเงินเดือนภาษีอากร เสนอตัวรับใช้ประชาชน เรื่อง "จีนเทา" จึงดำเนินการไปสู่สภา ล้มกระดานนับ 1 ใหม่ เป็นเป้าหมายที่ผมว่าไว้ตั้งแต่ต้น ถึงวันนี้ใกล้เป้าหมายแล้ว
ล่าสุดนายชูวิทย์ โพสต์ด้วยว่า เช้านี้ (13 ม.ค.66 ) ผบ.ตร. นำสำนวนคดี “จินหลิง” มาส่งอัยการสูงสุดอันจะนำไปสู่กระบวนการต่อสู้ในชั้นศาล ระหว่างประชาชนฝ่ายโจทก์ กับจำเลย นายตู้ห่าว จีนแปลงสัญชาติ และเครือข่ายที่ทำร้ายสังคมไทย กระทำการเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย วันนี้ ยังไม่ใช่จุดจบของเรื่องนี้ แต่เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของการต่อสู้ที่ศาล แน่นอนว่า ต้องสู้กันถึงศาลฎีกา
แต่จะถึงไหนก็แล้วแต่ ผมมั่นใจว่า ท้ายที่สุดประชาชนต้องเป็นฝ่ายชนะ