"โรม" ฝาก "นายกฯ-ตร." อย่าเลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมาน (มีคลิป)

2023-01-12 20:20:47

 "โรม" ฝาก "นายกฯ-ตร." อย่าเลื่อนบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมาน (มีคลิป)

Advertisement

"โรม" ฝาก "นายกฯ-รมว.ยธ.-ตร." อย่าเลื่อนบังคับใช้  พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมาน 

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามชะลอการบังคับใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.66 ว่า กฎหมายฉบับนี้ผ่านสภามาหลายเดือน แต่กำหนดให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 120 วัน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมตัวปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ กฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญในฐานะการยกระดับกระบวนการยุติธรรมที่คุ้มครองพี่น้องประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐ โดยสาระสำคัญข้อหนึ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)  อ้างว่าไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ได้ คือการติดกล้องบันทึกภาพระหว่างปฏิบัติภารกิจ ซึ่งจุดประสงค์ของกฎหมายต้องการให้สามารถตรวจสอบได้ว่า ระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายหรือซ้อมทรมาน หากเราไปดูประเทศที่เจริญแล้ว ที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและโปร่งใส อย่างสหรัฐอเมริกา หลายประเทศในยุโรป ก็จะพบว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการติดกล้องประจำตัวไว้ เป็นเรื่องปกติมาก และทำให้ทราบได้ว่า การควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นการควบคุมตัวตามกฎหมายจริงหรือไม่ หากย้อนกลับมาดูที่ประเทศไทย ก็มีการกล่าวอ้างอยู่เป็นระยะว่าการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ มีการซ้อมทรมาน การทำร้ายร่างกาย หรือมีการควบคุมตัวที่ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ดังนั้นกฎหมายฉบับนี้จึงมีเจตนารมณ์ที่ดี

โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า หนังสือที่ลงนามโดย ผบ.ตร. กลับอ้างว่า การปฏิบัติตามกฎหมายฉบับนี้ จะต้องมีการจัดซื้อกล้องเพื่อบันทึกภาพและเสียงจำนวนมาก ตนเห็นว่าการขอเลื่อนการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ที่มุ่งคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและคุ้มครองประชาชนจากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ในฐานะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เคยเรียกให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายนี้ เข้ามาชี้แจงต่ออนุกรรมาธิการฯ หนึ่งในนั้นมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เข้าชี้แจงเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 ได้ตอบคำถามอย่างชัดเจนว่า  ตร. มีความพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายฉบับดังกล่าว ทุกหน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงก็ยืนยันเช่นนั้น โดยตนก็ได้เสนอว่า หากมีความจำเป็นต้องจัดซื้อกล้องบันทึกภาพ ก็สามารถใช้งบกลางได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือ ตร.  กลับออกหนังสือขอชะลอการบังคับใช้กฎหมาย  จึงขอฝากไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  รมว.ยุติธรรม และนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแล ตร.อย่าใช้วิชามารเลื่อนกฎหมายที่พิทักษ์สิทธิมนุษยชน