ดีเอสไอแจงคดีรถหรู 1,020 คัน แจ้งข้อหาผู้นำเข้าขยายผลตัวการใหญ่

2023-01-12 15:24:36

ดีเอสไอแจงคดีรถหรู 1,020 คัน แจ้งข้อหาผู้นำเข้าขยายผลตัวการใหญ่

Advertisement


ดีเอสไอแจงคดีเลี่ยงภาษีรถหรู 1,020 คัน แจ้งข้อหาผู้นำเข้า 100 เปอร์เซ็นต์ เตรียมขยายผลตัวการใหญ่ คาดว่าภายใน ก.พ.แจ้งข้อกล่าวหาได้ครบ

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า ตามที่ดีเอสไอได้สอบสวนดำเนินคดีอาญากับขบวนการหลีกเลี่ยงภาษีอากรรถยนต์ราคาแพง ที่มีการส่งออกจากสหราชอาณาจักร เข้ามายังประเทศไทย จำนวน 1,020 คัน ตามข้อมูลที่ได้รับจากการทำคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา (Mutual Legal Assistance Treaty-MLAT) ไปยังสหราชอาณาจักร ซึ่งกรมศุลกากรได้ดำเนินการประเมินราคาและอากรใหม่พบหลักฐานว่ามีการเลี่ยงภาษีด้วยการสำแดงราคานำเข้าอันเป็นเท็จ (ราคาต่ำ) เพื่อให้เกิดฐานราคาในการคำนวณภาษีที่ต่ำลงกว่าความเป็นจริง ทำให้รัฐขาดรายได้จากภาษีประเภทต่าง ๆ ในการนำเข้ารถยนต์เป็นเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยรับเป็นคดีพิเศษ ในปี พ.ศ.2565 จำนวน 114 คดี โดยมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ เป็นผู้ทำการสืบสวนสอบสวน และมี พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะ โดยมีการนำเสนอความคืบหน้าของคดีมาเป็นลำดับ นั้น

ล่าสุด พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า 1 ปีที่ผ่านมา การสอบสวนคืบหน้าไปมาก มีการสอบสวนผู้ครอบครองรถยนต์ปัจจุบัน 404 คน สอบสวน ผู้ขอจดทะเบียนครั้งแรก 466 คน สอบสวนนายทะเบียนรถยนต์กรุงเทพมหานคร 960 คัน สอบสวนนายทะเบียนรถยนต์ต่างจังหวัด (21 จังหวัด) 59 คัน สอบสวนเจ้าหน้าที่ส่วนควบคุมบัญชีรถกรมการขนส่งทางบก 1,020 คัน สอบสวนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรผู้ประเมินอากรขาด 1,020 คัน สอบสวนเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรผู้ตรวจปล่อย 36 คน รวมเอกสารเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน และธุรกรรมต่างๆ จำนวนมาก สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับผู้นำเข้ารถยนต์ฯ ได้จำนวน 133 คน จาก 79 คดี ที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามแจ้งข้อกล่าวหาให้ครบทุกคน คาดว่าภายในเดือน ก.พ.66 จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ครบกรณีที่ไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ก็จะเสนอศาลเพื่อขอออกหมายจับและประกาศสืบจับ และสรุปสำนวนการสอบสวนเสนอไปยังพนักงานอัยการต่อไป

นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคดีสำคัญที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  รมว.ยุติธรรม ให้ความสำคัญและมอบนโยบายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว หลังจากการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้นำรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยเลี่ยงภาษีแล้ว จะขยายผลไปยังตัวการที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายรถยนต์นำเข้าหรือโชว์รูม ต่อไป