"สุพันธ์ุ"จี้รัฐบาลปราบมาเฟียท่องเที่ยว เตรียมระบบสาธารณสุขให้พร้อมรับมือโควิด
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.66 นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ประเทศจีนจะเปิดประเทศในวันนี้ว่า เป็นโอกาสของประเทศไทยที่จะดึงนักท่องเที่ยวจีนมาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยได้ประเมินว่า ในปีนี้ไทยอาจมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาถึง 25 ล้านคน จากทั่วโลก และจะสามารถสร้างเศรษฐกิจจำนวนมหาศาลให้กับประเทศ ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมากคือการเกิดขึ้นของมาเฟียและผู้มีอิทธิพลด้านการท่องเที่ยว รัฐต้องจัดการไม่ให้เกิดการโกงนักท่องเที่ยวหรือโก่งราคาขึ้น รวมทั้งคิวรถเถื่อนต่างๆเป็นปัญหาที่ต้องเร่งจัดการ โดยรัฐต้องจัดหาโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอ ไม่ให้เกิดการแย่งกันกินแย่งกันเที่ยวขึ้น SMEs ที่ยังไม่ฟื้นดีจากวิกฤตโควิด รัฐต้องเร่งช่วยเหลือให้สามารถกลับมาเปิดกิจการได้ นอกจากนั้นยังต้องมีการเกลี่ยพื้นที่การท่องเที่ยวเพื่อให้ไม่เกิดการแออัดและกระจกตัวอยู่แค่บางพื้นที่ จังหวัดต่างๆต้องมีแลนด์มาร์กเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปในลายจังหวัดมากขึ้น ต้องเร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายในและอยู่ในไทยยาวขึ้น มีการวางแผนเส้นทางท่องเที่ยวระยะยาวให้นักท่องเที่ยว และต้องจัดการสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ในส่วนที่หลายภาคส่วนมีความกังวลเรื่องการกลับมาแพร่ระบาดของโควิด-19 เพราะไม่มีมาตรการคัดกรองนั้น นายสุพันธุ์ให้ความเห็นว่ารัฐต้องจัดเตรียมความพร้อมในด้านนี้ ต้องเตรียม ATK วัคซีน และ ยาให้พร้อมเพื่อที่จะรับมือกับความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการเปิดประเทศ ประเทศไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเปิดระเทศได้ แต่ต้องมีการสร้างสมดุลย์ระหว่างการสร้างรายได้ให้ประเทศ และ การเตรียมพร้อมด้านสาธารณสุขให้ดี เพราะหากชะลอเวลาหรือมีมาตรการใดๆมาเพิ่ม จะทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสที่จะสร้างรายได้ไป และ อาจเกิดมาตรการตอบโต้ด้านเศรษฐกิจจากจีนซึ่งจะกระทบกับรายได้ของประเทศอย่างมาก ในปีนี้การท่องเที่ยวจะเป็นเครื่องจักรตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสถานที่ ด้านการประชาสัมพันธ์ และ ด้านสาธารณสุข เพื่อไม่ให้สูญเสียนักท่องเที่ยว เสียชื่อเสียงของประเทศ และ รักษาเครื่องจักรทาเศรษฐกิจตัวสำคัญของประเทศในปีนี้ไว้