“มีชัย” ระบุตั้ง กมธ.ร่วม 3 ฝ่ายพิจารณาร่าง พ.ร.ป.2 ฉบับหรือไม่มีเวลาพิจารณาถึง 9 ก.พ.นี้ ยันคิดรูปแบบเลือก ส.ว. ป้องกันการกแทรกแซง ฮั้ว ตามเจตนารมณ์ รธน. ชี้การกำหนดให้ ส.ว. มาจากอิสระ 100 คน มาจากองค์กร 100 คน อาจทำให้ ส.ว. ไม่ได้เป็นตัวแทนของทุกกลุ่มอาชีพไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า กรธ. ได้รับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)แล้ว จากนี้ กรธ.จะตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณารายละเอียดเนื้อหาแยกรายฉบับ ทั้งนี้ตอบไม่ได้ว่าจะทำความเห็นโต้แย้งเพื่อนำไปสู่การตั้งกรรมาธิการร่วมหรือไม่เพราะต้องรอฟังความเห็นจากที่ประชุม กรธ. และพิจารณารายละเอียดที่ถูกปรับแก้ไปเป็นจำนวนมากก่อน ซึ่ง กรธ. มีเวลาพิจารณาจนถึงวันที่ 9 ก.พ. นี้
นายมีชัย กล่าวต่อว่า สำหรับ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ สนช. ปรับแก้ไข มาตรา 2 ว่าด้วยระยะเวลาที่กฎหมายใช้บังคับ จากเดิมให้มีผลหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไปเป็น 90 วัน ตามเหตุผลของ สนช. นั้นรับฟังได้ แต่จำเป็นต้องดูรายละเอียด อาทิ การยกเว้นให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สามารถออกระเบียบหรือคำสั่งที่ใช้ในการเลือกตั้งได้หรือไม่ หากไม่ยกเว้นให้กระทำได้ก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้ จะเกิดความยุ่งยาก และปัญหากับพรรคการเมือง โดยเฉพาะประเด็นการเลือกตั้งขั้นต้น (ไพรมารีโหวต) เพื่อหาตัวแทนพรรคในเขตเลือกตั้ง ลงสมัคร ส.ส.
"ก่อนจะทำไพรมารีโหวต พรรคต้องจัดประชุมพรรค หาสมาชิกในเขตให้ครบจำนวนที่สามารถทำไพรมารีโหวตได้ แล้วจัดเลือกตั้งขั้นต้น เมื่อเสร็จต้องส่งให้คณะกรรมการคัดเลือกของพรรค หากมีข้อขัดแย้งหรือคณะกรรมการไม่เห็นด้วย ต้องส่งกลับให้ไปทำใหม่อีก แต่ตอนนี้พรรคยังประชุมไม่ได้ อีกทั้งยังมีขั้นตอนที่ กกต. ต้องออกระเบียบเพื่อรองรับขั้นตอนและกลไกทำไพรทารี่โหวตอีกด้วย ดังนั้นหากไม่เตรียมการให้ดี อาจมีแค่ 2-3 พรรคที่สามารถทำไพรมารีโหวตและส่ง ส.ส. ลงเลือกตั้งได้เท่านั้นหรือพรรคอาจทำไพรมารี่โหวตได้แต่ไม่ทัน ทำให้ส่ง ผู้สมัคร ส.ส. ไม่ครบทุกเขต " นายมีชัย กล่าว
นายมีชัย กล่าวด้วยว่า ขณะที่ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ตามประเด็นที่สนช. แก้ไข อาทิ การกำหนดกลุ่มผู้มีสิทธิสมัคร จำนวน 10 กลุ่ม จากเดิมที่ กรธ.เสนอ 20 กลุ่ม กำหนดประเภทสมัคร ที่มาจากการเสนอชื่อโดยองค์กรนิติบุคคล หรือ อิสระ จากเดิมที่กรธ. กำหนดให้ทุกคนมีสิทธิสมัครได้ วิธีการเลือกกันเอง ที่แก้ไขเหลือเพียงเลือกกันเองในกลุ่มเท่านั้น อาจเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาและอธิบายถึงความมุ่งหมายในเจตนาของ กรธ. ที่ต้องการให้ ส.ว. เป็นสภาของประชาชนมากกว่า ส.ว.ในความหมายผู้ทรงคุณวุฒิ และในรัฐธรรมนูญมาตราว่าด้วย ส.ว. มีเจตนารมณ์หลัก คือ บุคคลที่จะเป็น ส.ว. ต้องทำงานหรือเคยทำงานด้านต่างๆ ที่หลากหลายของสังคม และการแบ่งกลุ่มต้องให้ประชาชนได้รับสิทธิสมัครได้ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่การปรับลดกลุ่ม การแก้ไขวิธีการเลือก หรือ จำกัดการสมัคร ผ่านการกลั่นกรองจากองค์กรเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ส่วนวิธีการเลือก ส.ว.นั้น กรธ. พยายามออกแบบกลไกเพื่อไม่ให้เกิดการสมยอม อีกทั้งยังมีมาตรการป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองแทรกแซงผ่านผู้สมัครซึ่งเป็นตัวแทนพรรค ซึ่งยอมรับว่าเป็นหลุมพรางที่กรธ.เขียนไว้ และหากพรรคยังดำเนินการแทรกแซงมีสิทธิถูกยื่นยุบพรรคได้
“การรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนทำร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. นั้น กรธ. นำฐานของการแบ่งกลุ่มที่ 20 กลุ่มไปรับฟังความเห็น และอธิบายให้ผู้คนรับทราบว่า อาชีพต่างๆ สามารถจัดกลุ่มได้ทั้งหมด 19 กลุ่ม และมีกลุ่มอื่นๆ ทีเพิ่มโอกาสให้บุคคลมีสิทธิสมัครเป็น ส.ว. ได้ ถ้าแบ่งต่ำไปกว่านี้โอกาสที่บุคคลจะได้เป็นตัวแทนของกลุ่มอาชีพจะเหลือน้อย และยิ่งแบ่งประเภทการสมัคร เท่ากับว่าผู้ที่ลงสมัครในนามองค์กรที่ไม่ผ่านการกลั่นกรองจากองค์กรนั้นก็ได้ และยิ่งกำหนดให้ มาจากอิสระ 100 คน มาจาก องค์กร 100 คน อาจทำให้ ส.ว. ไม่ได้เป็นตัวแทนของทุกกลุ่มอาชีพ ดังนั้นประเด็นเหล่านี้อาจไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ" นายมีชัย กล่าว
เมื่อถามว่า ปัญหาในร่างกฎหมายที่ต้องทบทวนอาจเป็นปัจจัยทำให้การเลือกตั้งถูกล้มกระดานหรือไม่ นายมีชัย กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น ส่วนที่หลายฝ่ายประเมินว่าหากร่างกฎหมายมีความขัดแย้ง และมีการแก้ไขกันมาก อาจถูกโหวตคว่ำหรือไม่ ตนคิดว่าไม่น่าเป็นเช่นนั้น ต้องคุยกันในกมธ.ร่วม ถ้ากมธ.ไม่เห็นด้วย แต่สนช.ไม่เอาก็ต้องเป็นความรับผิดชอบของสนช. แต่ส่วนตัวยังเชื่อว่าหากกมธ.ร่วม เห็นอย่างไร สนช.น่าจะเห็นด้วยตามนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันนี้ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธาน กรธ. คนที่ 1 เป็นตัวแทน กรธ.มอบกระเช้าดอกไม้ และอวยพรวันเกิดล่วงหน้านายมีชัย ประธาน กรธ. ที่จะมีอายุครบ 80 ปี ในวันที่ 2 ก.พ.ด้วย