"อุตตม"มั่นใจ "สร้างอนาคตไทย" ได้ ส.ส.อีสาน ด้าน "สนธิรัตน์" ลั่นพร้อมฟื้นโครงการไฮสปีดเทรน ปั้นหนองคายเป็นฮับเศรษฐกิจอีสาน
เมื่อวันที่ 6 ม.ค.66 ที่โรงแรมรอยัลนาคาราและคอนเวนชั่น จ.หนองคาย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงงานสัมมนาผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน พรรคสร้างอนาคตไทย ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-7 ม.ค. 66 ว่า การประชุมสัมมนาทั้ง 2 วันนี้ เป็นการประชุมที่สำคัญกับพรรคสร้างอนาคตไทยในพื้นที่อีสานอย่างมาก เป็นการสัมมนาเชิงลึกในเรื่องของยุทธศาสตร์ และเป้าหมายของการเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เนื่องจากเป็นโค้งสุดท้ายของผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ภาคอีสาน พรรคสร้างอนาคตไทย โดยการสัมมนาจะลงลึกรายละเอียด และแลกเปลี่ยนข้อมูล เรียกว่าถกแผน และถกเป้าหมายกัน อีกทั้งพื้นที่อีสานเป็นพื้นที่สำคัญ และมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยให้ความสำคัญกับพื้นที่อีสาน แม้เราเป็นพรรคใหม่แต่เราเชื่อว่าเรามีขีดความสารถ และสรรพกำลัง ทั้งกำลังคน และชุดความคิดนโยบายที่ตอบโจทย์พี่น้องชาวอีสาน และตอบโจทย์ประเทศไทย เมื่อถามว่า หนักใจหรือไม่ เพราะอีสานมีพรรคเดิมที่มีฐานเสียงเหนียวแน่น นายอุตตม กล่าวว่า เราต้องยอมรับความจริงว่ามีพรรคใหญ่ที่ครองพื้นที่ แต่เรามั่นใจว่าพรรคเรามีแผนงานที่ชัดเจน มีบุคคลากรที่มีศักยภาพ แต่ต้องผสมผสานด้วยยุทธศาตร์ที่เหมาะสม ตนมั่นใจว่าเรามีโอกาสได้ส.ส.ในพื้นที่
ด้านนายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการปักธงในพื้นที่อีสาน ว่า การขับเคลื่อนทางการเมืองของพรรค และยุทธศาสตร์ของพรรคเรามีโอกาสปักธงส.ส.อีสาน ขณะนี้พรรคได้เดินยุทธศาสตร์ ทั้งเชิงเดี่ยว และเชิงพันธมิตรตามที่เป็นข่าวไปแล้ว ซึ่งยุทธศาตร์ผสมผสานทั้ง 2 ส่วนคือเป้าหมายในการปักธง ส.ส.อีสาน วันนี้พรรคได้เดินมาถึงจุดที่เรามีความมั่นใจ คิดว่าเราจะปักธงในหลายพื้นที่ ถือเป็นความท้าทายของพรรคอย่างมาก แต่เชื่อว่าพี่น้องชาวอีสานส่วนใหญ่ต้องการความเปลี่ยนแปลง เพราะขณะนี้เป็นเวลาเปลี่ยนแปลงทางการเมือง พรรคสร้างอนาคตไทยเท่าที่เราเดินมา ถือว่าไม่มีอุปสรรคต่อความรู้สึกของพี่น้องชาวอีสาน เราคือมือทำงาน เป็นพรรคที่ตั้งใจมาทำงาน เสนอตัวเอง เสนอบุคคลากร และเสนอกรอบความคิดที่จะแก้ปัญหาประเทศ เชื่อมั่นว่าด้วยความตั้งใจเช่นนี้ รวมถึงยุทธศาตร์ของพรรคที่มีจึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะปักธงอีสานได้
“พรรคสร้างอนาคตไทยเลือกมาจ.หนองคายวันนี้ เพราะเราเสียดายที่วันนี้หนองคาย จากในสมัยที่พวกเราริเริ่มโครงการไฮสปีดเทรน หรือรถไฟฟ้าความเร็วสูงกับทางเวียงจันทร์ ประเทศลาว ระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เราริเริ่มได้หายไปจากประเทศไทย ไม่อย่างนั้นวันนี้หนองคายจะไม่เป็นอย่างนี้ หนองคายจะเป็นหนองคายที่เป็นฮับใหญ่ของประเทศไทย แต่วันนี้กลายเป็นเวียงจันทนร์ที่เป็นฮับใหญ่ของการเชื่อมโยงเส้นทางสายไหม ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นวันนี้เรามาเพื่อบอกให้รู้ว่าถ้าพี่น้องชาวอีสานไว้วางใจพวกเรา หนองคายจากกลับมาเป็นฮับใหญ่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และจะเป็นหมากเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่งของพี่น้องชาวอีสาน น่าเสียด่ายที่ผู้มีอำนาจในปัจจุบันไม่ได้ทำ แต่เราอาสากลับไปทำต่อให้สำเร็จ ไม่มีอะไรช้าเกินไป และเราจะปักธงตรงนี้แน่นอน และเป็นหนึ่งในนโยบายของเราแน่นอน นี่คือเหตุผลของการมาที่นี่ของพวกเรา” นายสนธิรัตน์ กล่าว