"ครูเทียม" โผล่สำนักสงฆ์บุรีรัมย์ ปฏิบัติธรรมพักใจหลังเจอคดีอนาจาร

2023-01-04 12:15:34

"ครูเทียม" โผล่สำนักสงฆ์บุรีรัมย์ ปฏิบัติธรรมพักใจหลังเจอคดีอนาจาร

Advertisement

"ครูเทียม" โผล่สำนักสงฆ์พระพุทธบาทศิลา ภูฟ้าม่าน บุรีรัมย์ ปฏิบัติธรรมถือศีลพักใจหลังเจอคดีใหญ่อนาจารลูกศิษย์หนุ่ม 16 ปี 



จากกรณีข่าวช็อกวงการลูกทุ่งไทย หลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลุยจับคอนเมนเตเตอร์ชื่อดัง “ครูเทียม” หรือ "นายชุติเดช ทองอยู่" อายุ 60 ปี หลังก่อเหตุลวงเด็กชายวัย 16 ปีไปกระทำอนาจาร ทำให้กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์อยู่ในขณะนี้ 






จากการสืบสวนทราบว่า เด็กชายเอ (นามสมมติเหยื่อ) เป็นนักเรียนและอยู่ในวงดนตรีของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้รู้จักและติดต่อกับนายชุติเดช เนื่องจากเห็นว่าเป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 65 เด็กชายเอ ได้นัดหมายกับนายชุติเดช ว่าจะมารับที่บ้านในพื้นที่ อ.จักราช จ.นครราชสีมา เพื่อพาไปศึกษางานและจะหางานให้ทำ ก่อนพาไปที่ห้องพักดังกล่าว จากนั้นได้กระทำอนาจารโดยการกอดจูบ ใช้มือจับอวัยวะเพศของผู้เสียหายและพยายามซุกใบหน้าเข้าไปที่หว่างขา แต่ผู้เสียหายขัดขืน จึงไม่สามารถทำอะไรได้ และได้พาผู้เสียหายมาส่งที่บ้าน ต่อมาเด็กชายเอ จึงได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบ และขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ TICAC เข้าสนับสนุนการปฏิบัติดังกล่าว





ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปรากฏข่าว ทาง ครูเทียม ก็เก็บตัวเงียบ ปิดการติดต่อทุกช่องทาง และยังไม่มีการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด ทั้งนี้ในส่วนของงานในวงการบันเทิงกับการเป็นกรรมการและคอมเมนเตเตอร์ รายการชิงช้าสวรรค์ และ ไมค์ทองคำ ที่ได้ทำกับทางช่องเวิร์คพอยท์ นั้น ทางช่องดังเผยว่ารายการที่ทำกับครูเทียมทั้งหมด ได้จบซีซั่นลงแล้ว





ทั้งนี้ เพจเฟซบุ๊ก คนลูกทุ่ง ได้โพสต์ภาพ ก่อนหน้านี้ ปรากฏว่า ครูเทียม เข้าถือศีลปฏิบัติธรรม ที่บ้านเกิด โดยใช้เวลาช่วงของเทศกาลกลับบ้านไปดูแลคุณแม่ที่อายุมากแล้ว และในโอกาสเดียวกันนั้น ยังถือได้ว่าเป็นการเข้าถือศีลปฏิบัติธรรมที่ สำนักสงฆ์พระพุทธบาทศิลา ภูฟ้าม่าน จ.บุรีรัมย์ โดยใช้เวลาในการบวชหลายวันที่ผ่านมา และจะสิ้นสุดในวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา 




เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหา "ครูเทียม" ดำเนินคดีในความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจ ครอบงำผิดครองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยวิธีอื่นใด, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วย ประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น”