เปิดตัวลูกๆ ทั้ง 3 "น้ำ รพีภัทร" เปลือยใจทำไมไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี ทั้งๆ ที่อยู่มานานกว่า 20 ปี
พระเอกหนุ่ม "น้ำ รพีภัทร" เปิดใจครั้งแรกหลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี พร้อมเคลียร์ชัดๆ กับฉายาที่ชาวเน็ตตั้งให้ว่าเป็นพระเอกขี้เมา อีกทั้งยังเปิดชีวิตคู่กว่า 10 ปีกับปัญหาที่อาจทำให้บ้านแตก ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow
ตอนนี้หมดสัญญากับช่องมากสีหรือยัง ?
น้ำ : หมดแล้วครับ หมดเมื่อปี 65 ที่ผ่านมาครับ
ตอนนี้ถือว่าเป็นนักแสดงอิสระเต็มตัวแล้ว ?
น้ำ : เป็นนักแสดงอิสระแล้วครับ
ทำไมถึงไม่ต่อสัญญา ?
น้ำ : ผมอยู่ในสัญญามา 20 ปีแล้วนะ ตอนนี้พอหมดสัญญาแล้วอยากจะได้ลองอะไรใหม่ๆ ทำงานกับทีมใหม่ๆ ไปเจอกลุ่มนักแสดงใหม่ๆ บ้าง เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ ได้ทำงาน ได้ศึกษาอะไรใหม่ๆ ด้วย
ส่วนใหญ่นักแสดงที่หมดสัญญา พอออกมาปุ๊บเนรคุณ พี่น้ำกลัวคนจะว่าเนรคุณไหม ?
น้ำ : ต้องให้เขาดูจากงานที่ผ่านมามากกว่า เพราะว่าตลอดระยะสัญญาที่ผ่านมา เราก็ทำหน้าที่ของเราแบบเต็มความสามารถ แล้วก็รับผิดชอบทุกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
เริ่มมีช่องอื่นๆ ติดต่อมาบ้างหรือยัง ?
น้ำ : มีบ้างครับ ก่อนหน้านี้เขาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ก็ถามเรื่องสัญญาแหละครับ ก็บอกว่าหมดปลายปี65 หลังจากนี้จะมีเริ่มคุยจริงจังในเรื่องของการวางแผนงาน
มีผู้ใหญ่ทางช่องวันมากทาบทามบ้างไหม ?
น้ำ : คงต้องผ่านรายการ คุยแซ่บshow นี่แหละครับ
อยากจะบอกอะไรผู้ใหญ่ ผู้จัด บ้าง ?
น้ำ : ตอนนี้อิสระแล้วนะครับ สามารถเรียกใช้ได้ เพราะว่าว่าง ตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมา แล้วเริ่มต้นปีใหม่ยังไม่มีเรื่องไหนติดต่อมา ตอนนี้ว่างครับ
พี่มีความสุขจนคนตั้งฉายาเป็นพระเอกไม่ถือตัว แต่ถือแก้ว พี่ได้ฉายานี้มารู้สึกยังไงบ้าง ?
น้ำ : ถ้าเป็นยุคสมัยก่อน ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ที่แล้ว ตอนที่โซเชียลไม่เป็นแบบนี้นะ มันจะต้องออกมาอีกรูปแบบหนึ่งแน่เลย แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าเวลาที่เราสนุก เขาสนุกไปกับเราด้วย แต่ไม่ใช่ว่า 365 วัน ผมเป็นอย่างนั้นทุกวัน
กรแสบวกก็มี กระแสลบก็มี ประมาณว่าพระเอกขี้เมา รู้สึกยังไงกับคำนี้ ?
น้ำ : จริงๆ แล้วจะบอกว่าคนเรามันมีทั้งช่วงที่ตึง แล้วช่วงที่หย่อน มันก็ต้องมีช่วงที่เราต้องรับผิดชอบหน้าที่การงาน แต่เมื่อเวลารีเลคผมเต็มที่ เมื่อตึงแล้วก็ต้องมีหย่อน หย่อนของผมก็หย่อนจนย้วย ผมกลัวอย่างเดียวคือคนที่เขาสนใจชีวิตส่วนตัว จนเมื่อวันหนึ่งเราไปรับบทนักแสดงในบทต่างๆ ที่ไม่ใกล้เคียงกับตัวจริงเรา บางทีมันจะไม่ส่งเสริมความเชื่อ ซึ่งตอนนี้พยายามบอกเพื่อนๆ เพลาๆ การถ่ายหน่อย
เห็นว่าพี่น้ำดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันเลย ?
น้ำ : ไม่ทุกวันหรอกครับ ถ้ามีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก็จะมีนั่งกินข้าว ทำอาหารทานกัน แล้วมีนั่งดื่มสังสรรค์กันบ้าง
กระป๋องเดียวพอไหม ?
น้ำ : กระป๋องเดียวไม่มีอยู่จริงครับ แล้วก็ 3 ขวดสุดท้ายไม่มีอยู่จริงครับ
เห็นว่าพี่เคยนอนยาวจนภรรยาคิดว่าพี่โอเคไหม ?
น้ำ : ใช่ๆ นึกว่าตายเลย เหมือนซ้อมตายไปในตัวเลย ตอนนั้นไปเจอกับพรรคพวกพี่น้องที่เป็นนักแสดงเหมือนกันนานๆ จะรวมตัวกันที กินกันแบบในร้านไม่เหลือแอลกอฮอล์แม้แต่ขวดเดียว กลับมาก็สิ้นสภาพเหมือนกัน นอนน็อกรอบเป็นวัน แล้วนอนนิ่งมาก จนเมียมาดู มาจับตัว เขาบอกนึกว่าตายไปซะแล้ว
วีรกรรมเด็ดๆ ตอนเมามีอะไรบ้าง ?
น้ำ : ตกบ้าน แต่เป็นบ้านเพื่อนนะ เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ผมนอนอยู่ด้านบน ตอนนั้นไม่รู้จะเข้าห้องน้ำหรืออะไรสักอย่างผมอะในหัวคิดว่าจะออกไปหาเพื่อน หรือว่าจะไปหาประตูห้องน้ำก็ไม่รู้ แต่ผมเดินออกหน้าต่างจะเป็นยาวๆ แล้วมีขอบมาหน่อยเดียว ผมดันหน้าต่างออกไปแล้วเดิน ตกบ้านลงไปเลย แต่โชคดีหลังบ้านที่ตกเป็นบ่อให้ควายลง เป็นขี้โคลนคือตอนลงไปขี้โคลนเป็นรูปตัวคนเลย แล้วผมก็ต้องเดินขึ้นมาเป็นมนุษย์โคลนตัวเลอะๆ ไปในวงที่เขากำลังนั่งกินกันอยู่ เขาบอกน้ำไปทำอะไรมา ตกบ้าน เมียผมถ่ายรูปตรงหน้าต่างสไลด์ลงมาจากชั้น2 เลย
ดื่มขนาดนี้หลายคนบอกว่าติดเหล้าเป็นแอลกอฮอลิซึ่ม เราจะว่ายังไง ?
น้ำ : ไม่ได้ติดหรอกครับ
อยากบอกอะไรกับคนเหล่านั้นบ้าง ?
น้ำ : คือไม่ได้ขี้เมานะครับ แต่ว่ากินแข่งกับเราก็ได้
มีเรื่องหนึ่งที่พี่ไม่เคยพูดถึงเลย คือพี่เจ้าชู้ จริงหรือเปล่า ?
น้ำ : เล่นละครเรื่องไหน กับนางเอกคนนั้น มีข่าวกุ๊กกิ๊กเชื่อมโยงกัน แล้วบวกกับตัวเองถ้าไม่ได้มีแฟนเป็นตัว เป็นตน ก็ไปได้เรื่อยเหมือนกัน
ณ ยุคนั้นพี่มีจิ้นกับใครบ้าง ?
น้ำ : บี มาติกา, ขวัญ อุษามณี, แพนเค้ก เขมนิจ ก็เยอะ นางเอกคนไหนที่เล่นด้วย ส่วนใหญ่จะมีจิ้นกันตลอด
เห็นบอกว่าเจ้าชู้มาก 77 จังหวัดครบเลยไหม ?
น้ำ : ก็น่าจะเกือบจะครบนะครับ ที่ได้มีโอกาสไปพูดคุยทำความรู้จัก เกือบจะครบแล้วล่ะครับ
เรียกคำนี้ได้ไหม พระเอก 4 ภาค ?
น้ำ : เหมือนตลาดน้ำ 4 ภาคเลยนะ
4 ภาคชอบภาคไหนสุด ?
น้ำ : ตอนนี้ก็ต้องชอบภาคปัจจุบันครับ
ภรรยาของพี่อยู่ด้วยกันมา 10 ปี ไปเจอกันได้ยังไง ?
น้ำ : 10 ปีจะเข้า 11 ปีแล้วครับ เขาเป็นรุ่นน้องดัชชี่ แต่ห่างกันหลายปี แต่พออยู่บริษัทเดียวกันก็มีโอกาสได้เจอ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
ชอบอะไรในตัวคุณมินตรา ?
น้ำ : คนอื่นอาจจะเห็นเขาเป็นคนนิ่งๆ แต่เขาเป็นคนที่เฮฮาสนุกสนาน เป็นตัวของตัวเองมาก ช่วงหนึ่งเขาไปเรียนชกมวย แล้วเจอกันเขาบอกพี่หนูขอเตะทีได้ป่ะ เราก็บอกว่าได้ แต่คิดว่าผู้หญิงเตะยังไงไม่น่าถึงหัวไหล่ เตะถึงก้านคอผมเลย แต่ดีผมยังมือไวยกบังไว้ ผมว่ามีมุมหวานน่ารักบ้าง มีมุมสนุกบ้าง ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของเขาดี
เห็นว่าก่อนจะเป็นแฟนก็มีบทพิสูจน์ ตอนนั้นพี่ตั้งคำถามอะไรกับคุณมินตรา ?
น้ำ : คุยกันได้สักระยะแล้ว ก็บอกว่าสมมติเราแต่งงานกัน แล้ววันหนึ่งพี่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างจังหวัด ถามว่าหนูจะสามารถไปอยู่ด้วยได้ไหม ซึ่งได้คำตอบทำให้เรารู้สึกดีมาก เขาบอกว่าพี่อยู่ที่ไหน หนูก็อยู่ที่นั่นแหละ ก็ใจๆ กับเราดีผมก็เดินหน้าเต็มที่เลย
ตอนนั้นคบกัน 1 ปี ทำไมรีบตัดสินใจแต่งงาน ?
น้ำ : มันใช่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลา ผมเองอยากมีครอบครัวแล้ว ตั้งใจอยากจะมีลูกเร็วอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจแต่งเลย
อยู่ด้วยกันมา 10 ปี แต่พี่บอกว่ามีเรื่องเดียวที่เป็นปัญหาชีวิตคู่ คืออะไร ?
น้ำ : คือจริงๆ สนุกสนานได้เต็มที่ พวกมาหาที่บ้านได้เต็มที่ แต่เรื่องหนึ่งที่ภรรยาผมไม่ชอบก็คือ มีเด็กมาเดินชง มาอยู่ใกล้ชิด คุยเล่นกับทุกคนได้ แต่สำหรับผมไม่สามารถ เขาจะมียังไงก็แล้วแต่ แต่ผมห้ามอยู่ใกล้รัศมีของเด็กเอ็นเตอร์เทน ห้ามใกล้เกิน 3 เมตร
เขามีวิธีบอกยังไง เห็นว่าไม่ได้บอกด้วยคำพูด ?
น้ำ : ใช่ครับ ศาลาที่ผมนั่งอยู่กับหน้าต่างบ้านจะเล็งเห็นกันพอดี เขาจะโผล่มาตรงหน้าต่างก่อน เราก็เห็นละ สักพักชะล่าใจโผล่อยู่ข้างวงมายืนกอดอกไม่พูด บางครั้งเมียผมเอาเต้นทีเล็กๆมาตั้งข้างวง แล้วเอาลูก เอาของเล่นมาตั้งข้างวง เพื่อมากดดันเรา มองอีกมุมมันก็ขำดี
ในบ้านพี่น้ำเป็นคนจัดการเรื่องเงินทั้งหมด แถมให้เงินเดือนภรรยาด้วย ?
น้ำ : ก็ให้ใช้เป็นเงินเดือน ค่าใช้จ่ายในบ้านยังไงก็มาเบิกผม เขาใช้ส่วนตัว แต่เขาก็มีของเขาบ้าง
ราคาไก่ชนพี่ตัวท็อปสุดกี่บาท ?
น้ำ : หลักแสน
ภรรยามีติงบ้างไหม ?
น้ำ : ดีอย่างหนึ่งภรรยาไม่ขัดฟิลผม เขารู้ว่าเรารัก เราชอบอะไร เราก็เหมือนกันรู้ว่าเขาชอบอะไรก็ไม่เคยขัดเขาเหมือนกัน
ไก่ตัวละแสน แล้วควายพี่ละตัวที่แพงสุด ?
น้ำ : หลักแสนถึงหลักล้านครับ จริงๆ ทุกอย่างวางไว้เพื่ออนาคตของครอบครัวของเด็กๆ ด้วย วันนี้โอเคยังมีแรงในการทำงานได้ปกติ แต่ถ้าวันหนึ่งเราไม่สามารถทำงานได้แล้ว หรือไม่มีคนจ้าง วันหนึ่งควายเหล่านี้อาจจะเลี้ยงลูกเราได้นะเพราะแต่ละตัวผมซื้อเป็นแม่พันธุ์ ลูกออกมาน่าจะมีมูลค่าสัก 3 แสนขึ้นไป ทุนการศึกษาในหนึ่งปี 3 แสนน่าจะพอในหนึ่งคน ก็วางไว้ให้แต่ละคนเรียบร้อยแล้ว รวมถึงภรรยา มีควายตัวแรกที่ผมซื้อ ออกลูกมาเป็นตัวเมีย แล้วจังหวะมันดีมากตรงกับครบรอบ 10 ปี ก็เลยยกลูกควายตัวนี้เป็นของขวัญครบรอบแต่งงาน 10 ปี ก็เคยถามเขานะ ควายที่ยกให้เขา ถ้ามีคนมาให้ 2 ล้านขายไหม เขาบอกเขาไม่ขาย เขาบอกพี่ให้แล้วหนูไม่ขายหรอก
พี่เป็นแบบพ่อบ้านใจกล้าไหม กลัวภรรยาหรือเปล่า ?
น้ำ : ก็ไม่มีเรื่องอะไรจะต้องกลัว นอกจากเรื่องเด็กเอ็นเตอร์เทน มันเป็นเรื่องที่เขาขอไว้แค่นั้นเอง นอกนั้นก็ไม่มีอะไร
ถ้าภรรยาดูอยู่อยากบอกอะไรกับเขา ?
น้ำ : จะพยายามไม่อยู่ใกล้เด็กเอ็นนะครับ
พี่น้ำเป็นคุณพ่อแบบไหน ตามใจลูกไหม ?
น้ำ : บางโอกาสครับ จริงๆ ก็ใจดี แต่ถ้าเกิดเขาดื้อ ไม่น่ารัก ก็ต้องมีการพูดคุยกันบ้าง
เวลาทำโทษทำยังไงบ้าง ?
น้ำ : ตอนแรกจะบอกก่อน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็จะมีการตกลงกันว่าจะมีการตีเกิดขึ้น
เห็นว่าเคยมีตีลูกไปร้องไห้ไป มันเป็นยังไง ?
น้ำ : เคยตีแล้วสอนไปด้วย บางครั้งเขาจะผิดในข้อเดิมๆ 1-2 ครั้ง ไม่ว่าอะไร แต่ถ้า 3-4 ก็จะต้องมีถึงเนื้อถึงตัวกันบ้าง
ความรู้สึกที่เราตีเขาแล้วเราร้องไห้ไปด้วย ตอนนั้นเรารู้สึกยังไง ?
น้ำ : เราตีไม่ใช่เบานะ เราใช้มือตี เรายังเจ็บมือแล้วลูกมันไม่เจ็บเหรอ ก็ถามเขาโดนตีไม่เจ็บเหรอทำไมยังทำผิดซ้ำๆ บางครั้งที่เราสอนทำไมจำไมได้ เราไม่ได้อยากตี
เห็นว่าที่พี่น้ำกลับมาอยู่นครนายกอยากให้ลูกใกล้ชิดธรรมชาติ ?
น้ำ : อยากให้เขาเหมือนเราตอนเด็กๆ โตมากับบรรยากาศธรรมชาติ อยากเลี้ยงสัตว์อะไรก็เลี้ยงจะทำให้เขามีจิตใจเมตตา โอบอ้อมอารีกับสัตว์
คลิปสัมภาษณ์ น้ำ รพีภัทร
https://youtu.be/EOBSiVZQfS4