"ชูวิทย์"อุบชื่อผู้มีอำนาจเอี่ยว "ตู้ห่าว" เมินรับคำท้า "จ้าว เหว่ย" ไปสามเหลี่ยมทองคำ
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 65 ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน ว่า ตนไม่ขอพูดถึงเรื่องที่ชี้แจงกับ กมธ.ป.ป.ช. ในประเด็นที่มีการซักถามกรณีการพาตัวนายตู้ห่าวไปพบบุคคลที่ชอบสะสมนาฬิกา และนายตู้ห่าวได้มอบนาฬิกาหรูมูลค่ากว่า 10 ล้านบาทให้บุคคลที่ชอบสะสมนาฬิกา แต่การที่นายตู้ห่าวเจริญเติบโตได้รวดเร็ว เพราะรู้จักนายตำรวจระดับใหญ่ และอยู่ในวงการมาเฟีย สังเกตได้จากผับจินหลิงที่ตำรวจมีข้อมูลไปตามจับมา ก็แสดงว่ามีหลักฐานพอสมควรที่จะออกหมายจับ และที่นายตู้ห่าวขึ้นลิฟต์รวดเร็วย่อมอยู่ใกล้ศูนย์กลางอำนาจ ถ้าจะให้ผมพูดปรักปรำว่าเห็นด้วยตาหรือไม่ ผมคงตอบไม่ได้เพราะเกรงว่าจะเป็นประเด็นการเมือง แต่สิ่งที่ผมพูดให้เห็นพฤติการณ์ของนายตู้ห่าว ที่พยายามไม่ใช้บันไดแต่กลับใช้ลิฟต์ในการขึ้นสู่ศูนย์กลางอำนาจ ซึ่งการนำนาฬิกาหรือขอกำนันให้กับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องปกติของธรรมเนียมไทย
เมื่อถามว่า คนที่เกี่ยวข้องกับนายตู้ห่าวเป็นที่มีอำนาจในรัฐบาลหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า ประเด็นที่ชี้แจงกมธ.ป.ป.ช.วันนี้ คือเรื่องของนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล แต่ถ้าเป็นเรื่องของนายตู้ห่าว หากต้องการขึ้นลิฟต์เพื่อขยายอำนาจย่อมต้องการอยู่ใกล้ชิดกับศูนย์กลางอำนาจ ซึ่งการใกล้ชิดศูนย์กลางอำนาจนั้นย่อมไม่ใช่ตำรวจที่เกษียณแล้ว แต่เป็นคนที่มีอำนาจโดยตนไม่ขอเอ่ยชื่อหรือพฤติกรรมต่างๆ พาดพิง เพราะจะเสียหายไปถึง กมธ.ป.ป.ช. ดังนั้นนายสันธนะต้องมาให้คำชี้แจงกับ กมธ.ป.ป.ช.
เมื่อถามถึงกรณีที่นายจ้าว เหว่ย ออกมาปฏิเสธและท้าให้ไปที่เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ นายชูวิทย์ กล่าวว่า คุณจะให้ผมไปดูทำไม ทำไมคุณไม่ให้ประเทศสหรัฐฯไปดู เพราะนายจ้าว เหว่ย ถูกแบน ถูกแบล็คลิสต์กับประเทศสหรัฐฯ ไม่ใช่มาแก้ตัวกับผม คนอย่างนายจ้าว เหว่ยนั้น ถ้าทำการพนันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าทำการอย่างอื่นผมไม่ทราบ ต้องไปถามประเทศสหรัฐฯว่า ทำไมไม่ให้นายจ้าว เหว่ย เข้าประเทศ และไม่ให้วีซ่า