ใครที่กำลังมีปัญหาตาหมองคล้ำ ตาโหล ตาดำ ทำให้ใบหน้าไม่สดชื่น หรือดูแก่กว่าวัย และกำลังมองหาวิธีแก้แบบด่วน ๆ อย่างการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปฉีดที่ไหนดี ถึงจะปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย และไม่แพง วันนี้เรามีเคล็ดลับการเลือกคลินิกเสริมความงาม สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาฝากกัน ว่าจะต้องดูที่อะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
ถ้าเรายังไม่รู้ว่าจะไปฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี สิ่งแรกที่เราจะต้องมองหาและคิดถึงก็คือ การมองหาใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล ซึ่งเป็นสิ่งการันตีให้เรามั่นใจว่า สถานเสริมความงามแห่งนี้ถูกควบคุมและกำกับดูแลโดยรัฐ มีแพทย์และพยายามมืออาชีพคอยให้คำแนะนำ ไม่ใช่หมอเถื่อน หรือคนทั่วไปทำฉีดฟิลเลอร์ให้ ซึ่งเสี่ยงต่ออันตรายเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากเราจะต้องใบอนุญาตของสถานประกอบการแล้ว เราจะต้องดูใบประกอบโรคศิลป์ของแพทย์ที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ให้เราอีกด้วย เพราะการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะต้องทำจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จึงจะปลอดภัยและมั่นใจได้ ดังนั้น หากว่าใครถามว่าจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ก็ต้องที่ที่เปิดอย่างถูกกฎหมาย และมีแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องนั่นเอง
2. ตรวจสอบฟิลเลอร์ว่าเป็นของแท้ชัวร์หรือเปล่า
อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอมร้ายแรงกว่าที่เราคิด สำหรับฟิลเลอร์แท้นั้น ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเรา เพราะเมื่อเวลาผ่านพ้นไป ฟิลเลอร์ก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่คงค้างอยู่ในร่างกาย หรือส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ปลอม โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา อาจจะทำให้เกิดอันตราย ถึงขั้นติดเชื้อและตาบอดได้เลย
ดังนั้น ก่อนที่เราจะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี เราควรจะตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ฉีด ทั้งยี่ห้อที่ใช้ และที่สำคัญคือ การตรวจสอบว่าเป็นฟิลเลอร์แท้หรือเปล่า เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับเรานั่นเอง
3. อ่านรีวิวการฉีดฟิลเลอร์
เมื่อเราตรวจสอบแล้วว่าสถานพยาบาลและแพทย์ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถเปิดให้บริการได้ ฟิลเลอร์แท้ 100% ถึงคราวที่เราจะต้องอ่านรีวิวคลินิกเสริมความงามที่เราสนใจจะเข้าไปใช้บริการแล้ว โดยเราอาจจะสอบถามคนรอบตัวที่เคยไปใช้บริการ ดูรีวิวจากอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะจากเว็บไซต์คลินิกเสริมความงาม ข่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ รวมไปถึงรีวิวใน Google Business ซึ่งก็จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ว่าจะไปฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
ใครที่กำลังตัดสินใจจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่ยังไม่รู้ว่าจะฉีดที่ไหนดี ลองใช้หลักเกณฑ์ 3 ข้อนี้ไปพิจารณา รับรองว่าจะได้คลินิกที่ปลอดภัย และถูกใจอย่างแน่นอน