ผอ.นิด้าโพลชี้อธิการบดีระงับผลโพลร้ายแรงกว่ารัฐบาลแทรกแซง

ดร.อานนท์ กล่าวต่อว่า ที่ขอลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่ได้รับเสรีภาพทางวิชาการและการให้เกียรติกันในการทำงาน และสิ่งที่ตัวเองต้องทำคือการ Self cencership หรือ การเซ็นเซอร์ตัวเอง เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือใครจะมากดดัน แต่สังคมจะได้เรียนรู้ว่า การที่ถูกผู้บริหารเซ็นเซอร์นั้นร้ายแรงกว่าการถูกรัฐบาลเข้ามาแทรกแซง เนื่องจากเสรีภาพทางวิชาการมีความสำคัญมาก ส่วนคำถามไหนที่ทำให้นิด้าโพลเสื่อมเสีย เกี่ยวข้องกับประเด็นนาฬิการหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะมีการนำมาเผยแพร่หรือไม่นั้น ขอให้ไปสอบถามอธิการบดีเอง เพราะเป็นคนสั่งระงับ ซึ่งตนเองได้ลาออกแล้ว ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตอบคำถามนี้ ขอเป็นอาจารย์สอนหนังสือธรรมดา โดยไม่ได้คิดมุ่งหวังทางการเมือง

ด้าน รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ชี้แจงทันที ว่า เหตุที่มีการสั่งให้ชะลอผลโพลออกไปเพราะต้องรอการสอบสวนของ ป.ป.ช.ก่อน ซึ่งถ้าผลโพลออกมาตอนนี้อาจจะเป็นการชี้นำสังคมได้ ยืนยันว่าไม่ได้รับใบสั่งจากทางรัฐบาลให้ระงับผลโพล ส่วนผลโพลที่ถูกระงับนี้จะเผยแพร่ต่อสาธารณะชนได้ต่อเมื่อ ป.ป.ช.ได้มีการตัดสินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่าไม่เคยมีการแทรกแซงหรือเปลี่ยนแปลงผลโพล ไม่ว่าจะเป็นผลที่สนับสนุนหรือไม่สนับสนุนรัฐบาลทางนิด้าโพลได้มีการเผยแพร่มาโดยตลอด หลังจากนี้จะมีการพูดคุยกับ ดร.อานนท์ อีกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจกัน ส่วนการสรรหา ผอ.โพลนิด้าคนใหม่ ขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการ แต่ได้มีผู้ที่จะเสนอชื่อมาเป็น ผอ.นิด้าโพลคนใหม่แล้ว และขอยืนยันอีกครั้งว่าแม้ตนเองจะมีชื่อเป็น สนช. แต่ยืนยันว่าผลโพลเรื่องนาฬิกาหรูนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแน่นอน

ขณะที ่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นการลาออกจากตำแหน่งเอง ไม่มีการบังคับหรือกดดันจากรัฐบาล หรือ คสช. พร้อมปฏิเสธ รัฐบาลไม่เคยกดดันนักวิชาการที่ทำผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน ใครจะว่าอย่างไรก็ว่าไป สื่อก็ไปขยายความให้กลุ่มที่พยายามสร้างความขัดแย้ง บ้านเมืองจะได้ไม่สงบ