"อนุทิน"ซัดคนเพี้ยนวิจารณ์กัญชานโยบายการแพทย์ผิดเพี้ยน

2022-12-01 16:33:17

"อนุทิน"ซัดคนเพี้ยนวิจารณ์กัญชานโยบายการแพทย์ผิดเพี้ยน

Advertisement

"อนุทิน"ซัดคนเพี้ยนวิจารณ์กัญชาเป็นนโยบายการแพทย์ผิดเพี้ยน น้อมรับกัญชาการแพทย์แผนอนุทิน

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.65  ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธาณรสุข กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์แถลงข่าว "กัญชาทางการแพทย์แผนอนุทิน"  ว่า แน่นอน เรื่องดีๆ นายอนุทินก็ต้องถือเป็นผู้ผลักดัน พรรคประชาธิปัตย์พูดถูกกัญชาแผนอนุทิน ถูกต้องไหม ไม่ใช่กัญชาสาธิต วงศ์หนองเตย นะ เพราะสาธิต ปิตุเตชะ เอากับผมทุกเรื่องอยู่แล้ว

ส่วนที่มีการระบุว่าเป็นนโยบายการแพทย์ที่ผิดเพี้ยนนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า คนเพี้ยนก็ต้องคิดว่าเป็นเรื่องเพี้ยน ถ้าเพี้ยนจริง ท่านคงไม่ไม่ทำงานให้ผมหรอก ทั้งนี้ขอย้ำว่ากระทรวงสาธารณสุข มีแต่กัญชาทางการแพทย์ สุขภาพเศรษฐกิจ ไม่มีกรอบอื่น ท่านอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยหลังประกาศมีผลก็ลงไปทำความเข้าใจผู้ประกอบการทั้งหลายให้เน้น เรื่องสุขภาพ ทางการแพทย์เท่านั้น สันทนาการไม่ได้อยู่ในวัตถุประสงค์ เรื่องนี้พูดตั้งกี่ครั้งแล้ว ในร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ....ก็มีแล้ว อย่างที่เรียน คนที่มาพูดเป็นอื่น พรรคอื่นๆ ที่พูดก็รู้อยู่แล้วว่า อย่าไปกลัวกัญชา ทำความดีไว้ คิดถึงประชาชนไว้ อย่างไรประชาชนก็เลือก เอากัญชามา  ทั้ง หากบล็อกกัญชา นโยบายกัญชาถูกบล็อค แล้วจะถึงวันโลกาวินาศของพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคยังมีนโยบายอีกมากเพื่อประชาชน เอาใจใส่ประชาชนเพิ่มเติม ขยายโอกาสทางเศรษฐกิจอื่นๆ มากมาย ไม่ใช่เรื่องกัญชาเรื่องเดียว ระวังจะย้อนกลับ และเรามีประกาศสธ.อยู่แล้ว แต่ที่ต้องออกร่างพ.ร.บ.กัญชา นั้นเป็นเรื่องที่ออกมาเพื่อให้ประชาชนเกิดความสะดวก สบายใจ เจ้าหน้าทีบ้านเมือง เกิดความสะดวก คล่องตัวในการทำงาน ถึงมีเจตนารมณ์ร่างกฎหมายออกมา แต่สิ่งที่ภท. ตน เข้ามาคือตั้งใจปลดล็อคออกจากยาเสพติด ผ่านกรรมการ ป.ป.ส. ทั้งนี้หากใช้อย่างถูกวิธี เพื่อการแพทย์ เศรษฐกิจ สุขภาพประชาชน จะเกิดประโยชน์เท่านั้น ใครทำนอกเหนือจากนี้ แตกต่างจากนี้ถือว่าผิดกฎหมายที่มีประกาศ สธ. กำกับ หากรัก และเป็นห่วงปราชน ต้องการให้นโยบายกัญชาทางการแพทย์เกิดประโยชน์ ตือออกร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ใช่คว่ำร่างฯ ย้ำว่าสธ.ทำอะไรไม่ได้อ้างอะไรทั้งสิ้น เราผลักดันก่อนการเลือกตั้ง และไม่มีข้าราชการสธ.คนไหนที่จะทำตามคำสั่งที่เกิดโทษกับประชาชน ไม่มีใครสั่งได้

ด้าน นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ขอใช้สิทธิ์พาดพิงที่มีการพูดถึงตนโดยตรง และให้ข้อมูลที่ทำให้ ประชาชนที่อ่านข่าวเกิดความเข้าใจผิด ดังนั้นตนขอชี้แจงประเด็นแรกเขายืนยันว่ากัญชามีประโยชน์ แต่จะกัญชาจะมาเดี่ยวๆ ไม่ได้ต้องมีกฎหมายมาควบคุม ซึ่งตรงนี้เป็นที่ยอมรับ ที่บอกว่าเอากลับไปเป็นยาเสพติดดีหรือไม่นั้น ตนขอชี้แจงว่ากัญชามีประวัติมายาวนานไม่ใช่เพิ่งจะมามี ในประเทศไทยก็มีภูมิปัญญาเรื่องกัญชาที่มีบันทึกมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีตำรับยาใช้มาตลอด เป็นเรื่องที่เรามีโอกาสที่จะนำไปใช้ประโยชน์

ประเด็นที่ 2 ระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมาย ก็อยากให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรร่วมกันพิจารณาให้กฎหมายปัญญาออกมาบังคับใช้ถ้าท่านมีข้อคิดเห็นประการใดท่านก็สามารถใช้กระบวนการในสภาดำเนินการได้ ใช้กระบวนการประชาธิปไตยที่เราเห็นด้วยเข้าไปดำเนินการตรงนี้ ไม่อยากให้มาโจมตี ในฐานะที่ตนเป็นข้าราชการที่ทำตามกฎหมาย ตามกระบวนการที่ทำอยู่ วันนี้ยังไม่มีกฎหมายใหญ่ออกมา เราก็มีประกาศสธ.เพิ่ม และเวลาใช้ประกาศสธ.อย่าใช้กับฉบับเดียว ถ้าจะใช้ฉบับเดียวก็กรุณาออกกฎหมายกัญชาออกมา ถ้ามีอะไรที่เป็นข้อกังวลก็ไปออกกันในสภา อันนั้นไม่ใช่หน้าที่ของตน หน้าที่ของตนคือการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งก่อนออกประกาศคุมช่อดอกผานการพิจารณาที่มีนักกฎหมายทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงกฤษฎีกาอยู่ในนั้นด้วย

ทั้งนี้ การคุมเฉพาะส่วนสามารถทำได้ เพราะในมาตรา 44 กำหนด เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสมุนไพรให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการมีอำนาจในการออกประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดประเภท ลักษณะ ชนิดและชื่อสมุนไพร ที่มีคุณค่าต่อการศึกษาวิจัย มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ อาจจะสูญพันธุ์ ดังนั้นกรุณาไปดูว่ามีเวิร์ดดิ้งอยู่ 3 เรื่องที่สามารถกำหนดได้ ส่วนการที่เราไม่คุมทั้งหมด เพราะจะเป็นภาระของประชาชนในการที่จะต้องมาขออนุญาต มีความยุ่งยาก ความเป็นไปไม่ได้ในการจัดการ และไม่ได้มีผลอะไรมาก โดยข้อมูลทางวิชาการชัดเจนว่าส่วนอื่นที่ไม่ใช่ช่อดอกไม่ว่าจะเป็นกิ่ง ก้าน ราก ใบ มีสาร THC ไม่สูง ขณะเดียวกันก็มีสาร CBD ที่มาทำให้ผลของ THC ออกหรือต่อจิตประสาทลดลง มีงานวิจัยรองรับว่าการใช้ใบสูบ

นพ.ธงชัย กล่าวอีกว่ากรณีที่ระบุว่าการปลุกกัญชาของวิสาหกิจชุมชนไม่มีมาตรฐาร มีสารปนเปื้อนนั้น เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป จากการลงพื้นที่เช่น เภอโนนสะอาด จ.อุดรธานี และวิสาหกิจชุมชนต่างๆ มีการปลูกในโรงเรือน และเรียนรู้ต่อเนื่อง ตรวจคุณภาพดิน หากไม่มีสารปนเปื้อนก็ปลูกในโรงเรือน หากมีก็ปรับมาปลูกในกะถาง นำกัญชาไปทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้สามารถหาได้ในเมืองไทย ไม่เชื่อว่าสมาชิกสภาผู้ทรงเกียรติจะไม่ทราบเรื่องเหล่านี้ อีกทั้งก่อนนำมาใช้มีภูมิปัญหาแพทย์แผนไทยอยู่จำนวนมาก ผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ผ่านการรับรองโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนขึ้นทะเบียนยาหลักแห่งชาติ ซึ่งตอนนี้มี 10 ตำรับก็ผ่านคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นการที่พูดเช่นนี้ เป็นการไม่ให้เครดิตกับประเทศไทย ทั้งระบบ อย. ประเทศไทย คณะกรรมการบัญชียาหลักของประเทศไทย ซึ่งตนขอการันตีว่ากัญชาวิสาหกิจชุมชนที่นำมาใช้นั้นมีคุณภาพ.