"สุทิน" หวังศาล รธน.วินิจฉัย ก.ม.เลือกตั้งสร้างทางโล่งให้ประเทศ

2022-11-25 11:47:19

"สุทิน" หวังศาล รธน.วินิจฉัย ก.ม.เลือกตั้งสร้างทางโล่งให้ประเทศ

Advertisement

"สุทิน" หวังศาล รธน.วินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเเลือกตั้ง ส.ส.สร้างทางโล่งให้ประเทศ 

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 65  ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 30 พ.ย.65 ว่า จะเป็นวันชี้ชะตาบ้านเมืองอีกครั้งหนึ่งว่าผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร จะเกิดผลต่อการเมืองไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มีทั้งจะนำบ้านเมืองไปสู่ทางตันและทางโล่ง ฉะนั้นเราก็เคารพคำตัดสิน แต่คาดหวังว่ายังไงเสียเราก็อยากให้ไปสู่ทางโล่ง บ้านเมืองเดินไปได้ และคิดว่าหลายสิ่งจะดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว ที่รออยู่คือกฎหมายเลือกตั้ง หากผลการตัดสินทำให้กฎหมายเลือกตั้งสะดุดหยุดลง เราก็ต้องมาออกแรงกันมาก เราก็ได้แต่หวังว่าน่าจะเป็นเรื่องดี ๆ

เมื่อถามว่า หากสุดท้ายแล้วศาลชี้ว่ามีบางประเด็นบางมาตราที่จะต้องมีการปรับแก้ให้สมบูรณ์ขึ้น ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของสภาฯ ทันหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า หวุดหวิด ตนเชื่อว่าไม่ง่าย อยู่ที่เมื่อศาลจะชี้ออกมาว่าจะมีปัญหาที่ไหน บางครั้งชี้ออกมาเป็นปัญหาที่กฎหมายลูก หรือรัฐธรรมนูญ เป็นปัญหาที่กระดุมเม็ดแรก หรือเม็ดที่สอง หากเป็นที่กระดุมเม็ดสองคือกฎหมายลูก ก็อาจจะเร่งแก้ได้ แต่ต้องมีความร่วมมือกันจริงๆ แต่หากชี้ว่ามีปัญหาที่กระดุมเม็ดแรกจะยาว เพราะถ้าแก้ที่รัฐธรรมนูญก็จะยาว

เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นปัญหาที่กระดุมเม็ดสอง กระบวนการของสภาสามารถพิจารณา 3 วาระรวด ได้หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะกฎหมายลูก รัฐธรรมนูญเรื่องกฎหมายลูกห้าม 3 วาระรวด ต้องทิ้งช่วงเวลา แต่หากผิดตั้งแต่กระดุมเม็ดแรก เป็นเรื่องที่เราเป็นห่วง ซึ่งศาลอาจจะชี้ออกมา แต่อาจไม่บอกมาตรงๆ ว่าผิดที่กระดุมเม็ดแรก แต่คำวินิจฉัยอาจจะทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่าเป็นที่กระดุมเม็ดแรก เรากลัวอย่างนั้น แม้แต่กระดุมเม็ดที่สองก็ยังยุ่ง เวลาจะไม่พอ แต่หากศาลชี้ว่าไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ นั่นคือทางโล่ง แสดงว่า 1. เรามีกฎหมายสมบูรณ์แล้วที่จะเลือกตั้ง หากเกิดอะไรขึ้นทางการเมืองก็สามารถเลือกตั้งได้เลย และ 2.น่าจะเป็นกฎหมายที่ทุกคนยอมรับกันได้แล้ว หลังจากมีความเห็นต่างกันในชั้นของสภาฯ แต่เมื่อศาลชี้อย่างนั้นก็น่าจะยอมรับ และทุกข้อท้วงติงก็จะจบลง