คืบหน้าไอเอสโจมตีตำรวจกรุงปารีส

2017-04-21 09:10:15

คืบหน้าไอเอสโจมตีตำรวจกรุงปารีส

Advertisement

สมาชิกนักรบไอเอส บุกกราดยิงตำรวจบนถนนชองเอลิเซส์ กลางกรุงปารีสเมื่อคืนวันพฤหัสบดี ส่งผลให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย ส่วนคนร้ายถูกวิสามัญ กลุ่มไอเอสออกมาอ้างความรับผิดชองอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้


เกิดเหตุคนร้ายยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 2 คน บริเวณถนน ชองส์เอลิเซ่ส์ ใจกลางกรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ส่วนคนร้ายก็ถูกวิสามัญเสียชีวิต โดยเหตุเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรอบแรก ในวันอาทิตย์ที่ 23 เมษายนนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวกับรอยเตอร์ว่า คนร้ายเป็นชายคนหนึ่งลงมาจากรถยนต์ในที่เกิดเหตุ และใช้ปืนกลกราดยิง ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ถนนชองส์เอลิเซ่ส์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปิดพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งปิดสถานีรถไฟใต้ดินด้วย เพื่อมาตรการรักษาความปลอดภัย      
เหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ เกิดขึ้น ขณะที่ ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งเตรียมตัวออกไปใช้สิทธิ์ในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สูสีที่สุด และปัญหาการก่อการร้ายในประเทศ ก็เป็นประเด็นสำคัญในการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังเกิดการโจมตีหลายครั้งจากฝีมือของสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส และฝรั่งเศสก็ยังอยู่ภายใต้การบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินมาตั้งแต่ปี 2558 และยังถูกโจมตีก่อการร้ายหลายครั้ง มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 230 ราย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา  ส่วนสำนักข่าวอามัค กระบอกเสียงของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส รายงานว่า ไอเอสอยู่เบื้องหลังการโจมตีใจกลางกรุงปารีสเมื่อคืนวันพฤหัสบดี พร้อมทั้งระบุชื่อมือปืนคืออาบู ยูซุฟ อัล-เบลจิคี ชาวเบลเยี่ยม เป็นหนึ่งในนักรบของไอเอส ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส แถลงว่า เขาเชื่อวา เหตุกราดยิงบนถนนชองส์เอลิเซส์ เป็นการโจมตีก่อการร้าย และการโจมตีครั้งนี้ มีเป้าหมายอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวเมื่อถูกถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในกรุงปารีสว่า สหรัฐขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนฝรั่งเศสกับเหตุการณ์รุนแรงน่าตื่นตระหนกที่เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และดูเหมือนจะเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายอีกครั้ง มันไม่เคยสิ้นสุด และเราต้องแข็งแกร่งและต้องเฝ้าระวังตลอด เช่นดียวกบ นายกรัฐมนตรีเปาโล เจนติโลนี ของอิตาลี ซึ่งอยู่กับทรัมป์ ก็ได้แสดงความเห็นใจต่อฝรั่งเศสเช่นกัน