"ทิพานัน" โชว์ผลงาน "บิ๊กตู่" หนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ส่งเสริมท่องเที่ยวเป็นรูปธรรม

2022-11-13 15:21:18

"ทิพานัน" โชว์ผลงาน "บิ๊กตู่" หนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ส่งเสริมท่องเที่ยวเป็นรูปธรรม

Advertisement

"ทิพานัน" โชว์ผลงาน "บิ๊กตู่" หนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม กับเทศกาล UNFOLDING BANGKOK ท่องวัดลับ เที่ยวสวนป่ากลางเมือง  ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ ชูภาพลักษณ์ไทยผู้เข้าร่วมประชุมเอเปค

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเชิญชวนชาว กทม.  นักท่องเที่ยวจากทุกจังหวัดทั่วประเทศและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เที่ยวเทศกาล “UNFOLDING BANGKOK เปิดประสบการณ์ใหม่ กทม.” ตามนโยบายรัฐบาลของ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เดินหน้าต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง จึงได้มอบหมายหลายหน่วยงานดำเนินการให้เป็นรูปธรรม รวมถึง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ภายใต้การกำกับดูแลของ นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กทม.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมนำร่องใน กทม.ภายใต้โครงการ “UNFOLDING BANGKOK เปิดประสบการณ์ใหม่ กทม. ”

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า เทศกาล “UNFOLDING BANGKOK เปิดประสบการณ์ใหม่ กทม.  ” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 พ.ย.65 - 5 มี.ค.66 เพื่อนำจุดแข็งด้านวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในมิติต่างๆ ทั้งศิลปะ ชุมชนและวิถีชีวิตมาต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว อีกทั้งเป็นโอกาสดี ที่จะได้นำเสนอบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กับผู้มาร่วมประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) ที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2565 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยวของไทยอีกด้วย

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับกิจกรรมจัดขึ้นภายใต้ 3 ธีมหลัก ประกอบด้วย ‘Hidden Temple’ ท่องวัดลับ ‘Greeting Benjakitti’ เที่ยวสวนป่ากลางเมือง และ ‘Living Old Building’ ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์โดยกำหนดกิจกรรมและโปรแกรมการท่องเที่ยวดังนี้


1.ธีม "Hidden Temple" ท่องวัดลับ  จัดขึ้นใน 3 กลุ่มวัด ที่มีคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ โดยเริ่มจาก

- วัดอินทาราม วัดจันทารามและวัดราชคฤห์ ย่านตลาดพลู จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 20 พ.ย.65

- วัดภุมรินทร์ราชปักษี-วัดดุสิดาราม ย่านบางกอกน้อย ระหว่างวันที่ 10 - 18 ธ.ค.65

- วัดพระยาศิริไอยสวรรค์-วัดสวนสวรรค์ และ วัดคฤหบดี ย่านบางยี่ขัน วันที่ 24-31 ธ.ค.65

โดยมีการจัดแสดงแสงสี ติดตั้งบนสถาปัตยกรรม เพื่อให้เกิดมุมมองมิติของความสวยงามของสถาปัตยกรรมไทยที่ทรงคุณค่า พร้อมจัดแสดงและการละเล่นของนักสร้างสรรค์และ ชุมชน  (Performing Art) เช่นการแสดงกระตั้วแทงเสือ  การแสดงเชิดสิงโต  ชมศิลปะแทงหยวก การแสดงหุ่นกระบอกจีน รำกระบี่กระบอง เป็นต้น

2. ธีม "Greeting Benjakitti" เที่ยวสวนป่ากลางเมือง จัดขึ้นที่สวนป่าเบญจกิติ จัดทำเป็นประติมากรรมในพื้นที่สวน ด้วยรูปแบบ Art  Installation  ที่มีมิติความกลมกลืนกับระบบนิเวศในสวนป่าเบญจกิติ เพื่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมสวน สามารถใช้ประโยชน์จากงานประติมากรรมในรูปแบบ Universal Design ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานได้ทุกเพศ ทุกวัย พร้อมจัดกิจกรรมการแสดง Performing Art และกิจกรรมเวิร์คช็อป โดยเปิดให้ผู้ที่สนใจ และประชาชนสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. ถึง 26 ก.พ.66

3.ธีม "Living Old Building"ย้อนรอยอาคารประวัติศาสตร์ นำพื้นที่อาคารที่มีคุณค่าทางศิลปะและประวัติศาสตร์ มาปรับปรุงพื้นที่ในอาคารเก่า และอาคารอนุรักษ์ โดยการออกแบบ แสงสี (Lighting) เพื่อจัดแสดงโชว์ความสวยงามของอาคาร พร้อมจัดกิจกรรมภายในอาคารและนอกอาคาร เพื่อให้อาคารเก่ากลับมามีชีวิต และใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง และใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ อาทิ  อาคารสถานีรถไฟหัวลำโพง สำนักงานประปาแม้นศรี เป็นต้น โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ก.พ.ถึง 5 มี.ค.66   ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกัน ที่ CEA จัดเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2566 หรือ Bangkok Design Week 2023 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นกิจกรรมหลักต่อเนื่องประจำปี ของการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ และทั้ง 3 ธีมสามารถดูรายละเอียดก่อนเข้าชมได้ที่ www.cea.or.th

“พล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) มาพัฒนาระบบเศรษฐกิจ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์บนฐานขององค์ความรู้ การศึกษาวิจัยซึ่งเชื่อมโยงกับวัฒนธรรม พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สั่งสมความรู้ของสังคม รวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อใช้ในการพัฒนาธุรกิจ การผลิตสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจหรือคุณค่าทางสังคม รวมถึงสร้างรายได้สร้างอาชีพให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืน” น.ส.ทิพานัน กล่าว