"หมอสมิทธิ์"ชี้ประกาศ สธ.ล่าสุดทำให้เกิดช่องโหว่ วิธีแก้ง่ายสุดคือทำตามที่ฟ้องศาลปกครองกลับไปใช้ประกาศเมื่อปี 2563
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ หัวหน้าห้องปฏิบัติการนิติเวชศาสตร์ ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย และกรรมการแพทยสภา ซึ่งร่วมฟ้องศาลปกครองขอให้เพิกถอนประกาศ สธ.ฉบับปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ได้โพสต์ประกาศ สธ.ฉบับล่าสุดพร้อมข้อความผ่านเพจ Smith Fa Srisont ระบุว่า ผมขอกล่าวถึงประกาศกระทรวงสาธารณสุขล่าสุดที่พึ่งออกวันที่ 11 พ.ย.65 นี้ เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) ตามรูปนะครับ ก็ขอขอบคุณครับที่พยายามควบคุม ตามที่ผมและหมออีก 1,684 คน เรียกร้อง https://drive.google.com/.../1lmsmo3ZZksPPpVj3yf.../view... แต่ขอเตือนเลยครับว่า การประกาศแบบนี้ มันทำให้เกิดช่องโหว่และอาจผิดหลักตาม พ.ร.บ. ได้ครับ ตามนี้
1. ประกาศนี้ยกเลิกประกาศเก่าที่ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม โดยประกาศนี้เปลี่ยนเป็นเอาเฉพาะช่อดอกเป็นสมุนไพรควบคุม ซึ่งก็ถือว่าถ้าตามประกาศ คุมการใช้ช่อดอกได้ดีในระดับหนึ่งแต่ๆ ส่วนอื่นไม่ได้คุมเลยนะครับ ส่วนใบและอื่นๆ ขายหรือใช้อย่างไรก็ได้ เท่ากับว่า เด็กเข้าเซเว่น ซื้อขาไก่กัญชาหรือน้ำกัญชามากินได้ คนขายไม่ผิด เด็กซื้อใบกัญชามาสูบได้ คนขายไม่ผิด เราไม่ได้ป้องกันให้เด็กใช้กัญชาเลยครับหรือใครจะเอาใบกัญชาหลายสิบใบมาผสมทำบราวนี่ขายก็ยังได้หรือใครจะขายต้นกัญชาที่ไม่มีช่อดอกให้เด็กก็ได้
2. ประกาศนี้ออกตาม พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ซึ่งกำหนดว่า “สมุนไพร คือ พืช สัตว์ จุลชีพ ธาตุวัตถุ สารสกัดดั้งเดิมจากพืชหรือสัตว์ที่ใช้หรือแปรสภาพ หรือผสมหรือปรุงเป็นยาหรืออาหารเพื่อการตรวจวินิจฉัย บําบัด รักษา หรือป้องกันโรค หรือส่งเสริมสุขภาพร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์ และให้หมายความรวมถึงถิ่นกําเนิดหรือถิ่นที่อยู่ของสิ่งดังกล่าวด้วย”
ดังนั้นถ้าตามนิยามสมุนไพร เราไม่สามารถกำหนด สิ่งใดสิ่งหนึ่งของพืชเป็นสมุนไพรได้ ดังนั้นการกำหนดแค่ช่อดอกเป็นสมุนไพรถือว่าไม่ชอบครับ สุดท้ายผมยังยืนยันว่า วิธีแก้ง่ายสุดคือทำตามที่ผมฟ้องศาลปกครองครับ กลับไปใช้ประกาศเมื่อปี 2563 แล้วก็มีคำถามว่า หากย้อนกลับไปใช้ประกาศนั้น คนที่ปลูกกัญชาไปแล้วทำไง ผมขอลองเสนอวิธีครับ โดยถือหลักว่าจะใช้เพื่อการแพทย์ตามนโยบายของ สธ. รัฐก็ต้องออกนิรโทษให้คนที่ปลูกเพื่อใช้เอง โดยห้ามปลูกเพิ่ม หากคนนั้นต้องการใช้กัญชาเพิ่มเพื่อการแพทย์ ก็เข้าคลินิกในโรงพยาบาลที่มีทั่วไทยทั้งแผนไทยและแผนปัจจุบัน เพื่อขอสารสกัดกัญชาและคำแนะนำที่ถูกต้องในการใช้
ส่วนกลุ่มที่ปลูกเพื่อขาย ก็นิรโทษเช่นกัน โดยห้ามปลูกเพิ่ม และกำหนดให้เอาที่ปลูกมาขายกับรัฐเท่านั้นเพื่อเอาไปใช้ในงานวิจัย หรือทางการแพทย์ ส่วนร้านที่เปิดเพื่อขายกัญชาให้สูบ มันชัดเจนว่าเพื่อสันทนาการ จึงควรปิดไปเลยครับ เพราะไม่ตรงนโยบาย สธ. หรือหากจะไม่กลับไปใช้ของปี 2563 ก็ออกประกาศแบบประกาศนี้ละครับ แต่เปลี่ยนเป็นกัญชาทั้งต้น เพื่อให้คนที่จะปลูกเพื่อขาย หรือขายขออนุญาตก่อน
ก่อนหน้านี้ ผศ.นพ.สมิทธิ์ ระบุว่า แจ้งให้ทราบก่อนว่า ผมเป็นหนึ่งในกรรมการแพทยสภา และเป็นนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย แต่ผมฟ้องในฐานะตัวผมเอง ไม่เกี่ยวกับมติของคณะกรรมการแพทยสภาหรือสมาคมนะครับ ผมได้ฟ้องศาลปกครองเพื่อเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2565 จนทำให้ต้นกัญชารวมถึงช่อดอก ถูกถอดออกจากยาเสพติดครับ โดยผมต้องการให้กลับไปใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขเดิม ที่ประกาศปี 2563 ซึ่งเป็นประกาศที่ทำให้กัญชายังใช้เพื่อการแพทย์ได้ สาเหตุที่ฟ้อง เพราะปัจจุบันกฎหมายกัญชาในไทยปล่อยให้กัญชาเสรีมากที่สุดในโลก ถึงแม้จะมีกฎหมายที่ สธ. ออกมาทีหลัง เพื่อเอามาคุม มันก็ใช้ไม่ได้จริง (ใครตามผมเรื่อยๆ จะรู้ว่ากฎหมายที่ สธ. อ้าง มันไม่สามารถคุมได้จริง ผมมีรายละเอียดชัดเจนหาอ่านได้ในสเตตัสเก่าๆ จะขอไม่กล่าวในนี้) แล้วหยุดอ้างว่าการเปิดเสรีครั้งนี้ ทำเพื่อการแพทย์ มันไม่จริงเลยครับ เพราะมันเสรีเพื่อสันทนาการชัดเจน เพราะมีเด็กและวัยรุ่นเอามาใช้กันเป็นจำนวนมาก และมีผลเสียต่อคนกลุ่มนี้มากๆ นอกจากนี้การสนับสนุนให้เอากัญชามาใช้ทำอาหาร เช่นส้มตำ หรือไอศกรีม เป็นการสนับสนุนเพื่อการสันทนาการชัดเจน ประเทศที่เค้าใช้เฉพาะเพื่อการแพทย์ไม่มีการสนับสนุนแบบนี้แน่ๆ สุดท้ายขอขอบคุณทางพรรคฝ่ายค้านทุกพรรค ที่จัดหาคนมาร่างคำฟ้องให้ผมได้ฟ้องครั้งนี้ แล้วมาร่วมเป็นผู้ฟ้องกับผมด้วยครับ