"มัลลิกา"กระทุ้ง สธ.ดูแล "อสม. -อสส."ทั่วประเทศ

2022-11-10 17:41:02

"มัลลิกา"กระทุ้ง สธ.ดูแล "อสม. -อสส."ทั่วประเทศ

Advertisement

"มัลลิกา"กระทุ้ง สธ.ดูแล "อสม. -อสส." กว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ  พร้อมติดตาม ศักยภาพ รพ.สต.ให้มีแพทย์ หมอใหญ่ไปประจำเพื่อดูแลประชาชน

เมื่อวันที่ 10 พ.ย.65 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ดร.มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  อดีตที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ ตั้งกระทู้ถาม รมว.สาธารณสุขเกี่ยวกับงานสาธารณสุขมูลฐานเพื่อสุขภาพประชาชน ความคืบหน้าด้านประสิทธิภาพการทำงาน ขวัญกำลังใจ อสม. หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน อสส.หรืออาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร หลังโรคระบาดที่ผ่านมาได้มีการปรับประสิทธิภาพขึ้นมาอย่างไร รวมทั้งประสิทธิภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือรพ.สต. โดยถามถึงความคืบหน้าหลังมีการถ่ายโอนภารกิจให้ท้องถิ่น การบูรณาการ ระหว่างกัน ของท้องถิ่นและกระทรวงสาธารณสุขเพื่อประโยชน์ของประชาชน

ดร.มัลลิกา ระบุว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.จำนวน 1,039,729 คน และ อาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร หรือ อสส. จำนวน 10,577 คน รวมเป็น 1,050,306 คนนั้น แน่นอนว่าจากการลงพื้นที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศพบว่ามีการทำงานอย่างหนักทุกภารกิจลงไปในความรับผิดชอบของพวกเขา โดย อสม. นายชวน หลีกภัย และมีค่าตอบแทน 600 บาทต่อเดือน ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสมัยนั่น คือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่ปัจจุบันเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ก่อนที่จะมีค่าตอบแทนเดือนละ 1000 บาทในปัจจุบัน และเมื่อมีโรคระบาดรัฐบาลชุดนี้อนุมัติงบกลาง 1000 กว่าล้านบาทเพื่อให้เป็นสวัสดิการเป็นช่วงๆอีกเดือนละ 500 บาท แต่ต้องการสอบถามว่ามีกลไกใดที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนในการเพิ่มค่าตอบแทนเหล่านี้ไม่เพียงเฉพาะให้สวัสดิการเป็นระยะแค่ช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์หรือโรคระบาดเท่านั้น

"เพราะทุกวันนี้ อสม.กับ อสส. ทำงานอย่างหนักจำนวนคนเท่าเดิม ค่าน้ำมันรถค่ามอเตอร์ไซค์ก็จะต้องเติมเองการเดินทางการสื่อสารการประสานงานต่างๆก็ต้องจ่ายเองแล้วทุกคนก็ได้รับภารกิจมาจากทุกฝ่ายจนแทบจะเป็นลูกที่แท้จริงของพ่อแม่ปู่ย่าตายายของพวกเราที่อยู่ในต่างจังหวัดแล้ว เพราะทั่วทุกภาคลูกหลานในวัยเรียนวัยทำงานก็ล้วนออกมาทำงานต่างถิ่นดังนั้น อสม. คือญาติสนิทที่ดูแลครอบครัวให้กับทุกคนดังนั้นประสิทธิภาพและสวัสดิการรวมทั้งคุณภาพชีวิตของเค้าเหล่านั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นยิ่งกว่าการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใดๆ " ดร.มัลลิกา กล่าว

ดร.มัลลิกา ได้สอยถามถึง ศักยภาพความคืบหน้าของนโยบายด้าน งานสาธารณสุขมูลฐาน ทั้ฝการป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพอนามัย การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูสภาพ ทั้งหมดนั้นเป็นบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน 14 เรื่อง พี่ใกล้ตัวพี่น้องประชาชนเป็นความรับผิดชอบของผู้ใดและเป็นภารกิจของ อสม.ทั้งหมดหรือไม่ ดังนั้นจึงเห็นว่าพัฒนาการเชิงนโยบายกับภารกิจของบุคลากรสาธารณสุขซึ่งอยู่ในท้องถิ่นมันล้นมือจนเกินไป

จากนั้น ดร.มัลลิกา ได้ติดตามเรื่องโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล หรือ รพ.สต.หมายถึง สถานบริการสาธารณสุขซึ่งได้รับการยกระดับมา จากสถานีอนามัยตําบลและมีผู้อํานวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลเป็นผู้บริหาร ซึ่งการยกระดับนี้เกิดขึ้นสมัยนายจุรินทร์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นรัฐบาลยุคประชาธิปัตย์ปัจจุบันนี้มีการ จัดสรรบุคลากรโดยเฉพาะหมอใหญ่หรือนายแพทย์เป็นประจำเพื่อความอุ่นใจแก่พี่น้องประชาชนอย่างที่นโยบายเริ่มต้นมีเจตนารมณ์ไว้หรือไม่เพราะปัจจุบันเวลาลงพื้นที่ก็จะเจอเฉพาะพยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข เจ้าพนักงาน จึงอยากให้กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงถึงแผนการพัฒนาบุคลากรโดยเฉพาะแพทย์ไปประจำ รพ.สต. ทั่วประเทศให้เป็นไปดังเจตนารมย์ทั้งนี้เพื่อกรณีฉุกเฉินจะได้คุ้มครองดูแลชีวิตของพี่น้องประชาชน

นายสาธิต ปิตุเตชะ  รมช.สาธารณสุข ตอบกระทู้สดโดยชี้แจงถึงสวัสดิภาพสวัสดิการและประสิทธิภาพของการดูแล อสม. รัฐบาลให้ความใส่ใจและจัดสรรงบประมาณกลางเพื่อดูแลอย่างเต็มศักยภาพและประสิทธิภาพและมีแผนที่จะให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณเพื่อดูแลต่อไปอีกด้วย