ทลายโกดังขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ

2018-01-25 15:15:37

ทลายโกดังขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ

Advertisement

“ศรีวราห์”พร้อมเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ บุกโกดังย่านบางพลี ทลายขบวนการค้าไม้พะยูงข้ามชาติ เตรียมส่งออกไปจีน ยึดของกลางจำนวนมาก



เมื่อวันที่ 25 ม.ค. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.พร้อมด้วยชุดเฉพาะกิจพญาเสือกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ตำรวจ ทหาร เข้าตรวจสอบโกดังย่านบางพลี หลังได้รับข่าวจากสายลับ ว่ามีการขนส่งและเก็บไม้ผิดกฎหมาย เพื่อเตรียมส่งขายยังต่างประเทศ พบท่อนไม้พะยูง และท่อนไม้แปรรูป จำนวนมากบรรจุอยู่ในลังพร้อมส่งออก 9 ลัง กว่า 15 ตัน


รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า มีนายทุนชาวจีน 4 คน คือ นายหง เจีย หัว และ นายเชน ไจ จุน ส่วนอีก 2 คนที่เหลือได้เดินกลับจีนไปแล้ว โดยมีการสั่งไม้พะยูงและไม่ประดู่ จากนายกิติพร พิมลเลิศมงคล หรือ “เสี่ยเท่ห์” เป็นผู้จัดหาไม้มาจาก จ.ตราดและพื้นที่ป่าอื่นๆในประเทศไทย ก่อนส่งต่อให้ชิบปิ้งที่ชื่อต๋อง เพื่อส่งออกตามออเดอร์ สำหรับการเข้าค้นโกดังขบวนการค้าไม้พะยูงครั้งนี้ ถือว่าเป็นรายใหญ่ และเป็นการขยายผลจากการเข้าตรวจค้น วัดเมตตราธรรมโพธิญาน จ.กาญจนบุรี และการจับกุม ด.ต.ที่อ.ด่างช้าง จ.สุพรรณบุรี ตรวจสอบพบว่าเป็นไม้ลอตเดียวกัน โดยมีเสี่ยเท่ห์ เป็นตัวเชื่อมโยง จัดหาและกระจายไม้ไปที่ต่างๆตามออร์เดอร์


พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า จากการเข้าตรวจค้นครั้งนี้พบหลักฐานการสั่งไม้และเอกสารการจ่ายเงิน ลอตเดือน ธ.ค.2560 จำนวน 35 ล้านบาท ตามมูลค่าการซื้อขายในไทย ซึ่งลอตที่มีการส่งออกไปก่อนหน้านี้เป็นการส่งออกตามขั้นตอนที่ถูกต้องมีการสแกนสินค้า ซึ่จะต้องตรวจสอบว่ามีข้าราชการรู้เห็นหรือไม่ เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ร่วมกันมีมีเลื่อย โซ่ยนต์ เพื่อกระทำการแปรรูป ตาม พ.ร.บ.เลื่อยโซ่ยนต์ พยายามส่งออกของต้องห้าม ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ซึ่งจะต้องเสียค่าปรับภาษีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร เป็นมูลค่า 4 เท่าของราคาทั้งหมด ส่วนนายกิติพร ที่เป็นนายหน้าคนไทย รับสารภาพว่า ไม้ทั้งหมดไม่มีใบอนุญาต ในการครอบครองและจัดส่ง ซึ่งลอตดังกล่าวนั้นจะเตรียมส่งไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ไม้ทั้งหมดมาจากป่าในจ.สระแก้ว และ ตราด โดยมีรถกระบะนำมาส่งให้ที่โกดังก่อนบรรจุใส่ลังใส่ตู้คอนเทรนเนอร์ส่งออก โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป