"สนธิรัตน์" ลั่น "สร้างอนาคตไทย" ปักหลักอีสาน แก้จน แก้ปัญหาหนี้สิน แก้น้ำท่วม น้ำแล้ง
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 พ.ย.65 ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธาน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ปราศรัยกับประชาชน ว่า สอท.และนายสมคิด มาจ.อุบลราชธานีเป็นที่แรกของภาคอีสาน ไม่ได้มาแบบเล่นๆ แต่มาครบทีมใหญ่ เพื่อบอกว่าจะปักหลักสร้างอนาคตไทยในอีสานและจ.อุบลราชธานี เพราะคนอีสานรักใครรักจริง แห้งแล้งก็อดทน น้ำท่วมก็อดทน ไม่มีจะกินก็อดทน ข้างในร้องไห้แต่ยังยิ้มอยู่ได้ แต่รู้ว่าพี่น้องเจ็บปวดใจปลูกข้าวปลูกมัน น้ำท่วมตายหมด เอาถุงยังชีพมาแจกมาซับน้ำตา ก็กินได้ 2 วัน เราจะยอมอยู่อย่างนี้ไม่ได้ จึงชวนประชาชนว่าถ้าอยากออกจากความลำบาก ต้องสนับสนุน สอท.เวลาเลือกผู้แทนราษฎรแล้วเขาเอาเงิน 300 บาทมาให้ เป็นการเอาชีวิตของลูก พ่อแม่เรา ฝากไว้กับเงิน 300 บาท ส่วนใครให้มากกว่า ให้ 1,000 บาท ไปกาให้เพราะเกรงใจ แต่เขาเข้าไปแล้วเป็นรัฐบาล เขาช่วยไม่ได้เพราะไม่เอาจริงจัง แต่มาแค่ขอเสียงแล้วหายไป
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า หนึ่งกากบาทคืออำนาจของพี่น้องแล้ว ถ้าไม่กาให้เขา ก็ไม่มีความหมาย ถ้าเลือกคนที่ไม่ใช่ก็จะได้รัฐบาลที่ไม่ใส่ใจ น้ำก็ท่วมไป ขายข้าวไม่ได้ ไฟฟ้าแพง ก็ปล่อยไป จึงต้องดูว่าเขาจะทำอะไรให้กับพี่น้อง ต้องเลือกคนที่คนจะทำงานจริง มีนโยบายที่จะแก้จน สิ่งแรกที่ สอท. จะทำคือแก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม ทำให้จ.อุบลราชธานี ออกจากความยากจน เราจะประกาศตั้งกระทรวงน้ำ จากนั้นจะแก้ปัญหาหนี้สิน โดยเตรียมเงินไว้ 3 แสนล้านบาทเอาไว้แก้หนี้ แก้ความยากจน และจะแก้ปัญหาราคาข้าว มัน ตกต่ำ จะทำให้ข้าวหอมมะลิเกิน 15,000 บาทต่อตัน และกดราคาปุ๋ยให้เหลือครึ่งเดียว และแก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง
“ลูกพี่ผมชื่อสมคิด ไม่ได้อยากจะมาเป็นนายกฯ เพราะคนมาเป็นจะลำบาก บ้านพัง บันใดพัง หลังคาก็พัง คนไปซ่อมก็ยาก ประเทศไทยพังไปหมดแล้ว แต่นายสมคิด ต้องมาเพราะเป็นห่วงพี่น้อง ที่ผ่านมาก็ทำงานมาเยอะมากตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ทั้งโอทอป บัตรคนจน คนอย่างนี้ไม่ได้มาเพราะตำแหน่งหรือเล่นการเมือง อยากเป็นนายกฯ แต่มาด้วยหน้าที่” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า รัฐบาล คสช.เป็นรัฐบาลไม่มีมือเศรษฐกิจ จึงเชิญนายสมคิดไปเป็นมือเศรษฐกิจให้ จนทุกอย่างเริ่มดีขึ้น เกิดเลือกตั้งปี 2562 จึงตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อให้ประเทศเดินต่อ และไม่อยากให้ทะเลาะกันเอง แต่รัฐบาลทำอยู่ได้ปีเดียว ก็ลืมสัญญาว่าจะอยู่อีกไม่นาน เอาการเมืองเป็นตัวตั้ง ไม่คิดจะให้พี่น้องมีคนทำงานให้ จึงบีบพวกตนออก โดยโทรไปหานายสมคิด บอกว่าพวกตนไม่ใช่นักการเมือง แต่วันนี้พวกเราต้องมาเพราะน้ำตาของพี่น้องและไม่อยากเห็นลูกหลานไม่มีอนาคต แต่จะสำเร็จหรือไม่ อยู่ในสองมือของประชาชนว่าจะจับมือสร้างอนาคตไทยไปด้วยกัน