"นิพนธ์" ซัด "นิพิฏฐ์" บิดเบือนปมให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินไม่เกิน 1 ไร่แลกลงทุน 40 ล้าน ชี้การตัดสินใจเดินหน้าเรื่องนี้เป็นอำนาจนายกฯ ขออย่าใช้เรื่องนี้ทำลาย ปชป.ที่เคยให้โอกาสได้เป็น รมต.
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.65 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึง การที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคใต้ พาดพิงถึงตนในเรื่องที่เกี่ยวกับการขายที่ดินให้ต่างชาติ ว่า ตนรู้สึกแปลกใจในท่าทีของคุณนิพิฏฐ์ ที่จะใช้ทุกโอกาสเพื่อทำให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสียหาย ไม่ว่าจะเป็นครั้งที่เห็นดีเห็นงามกับเจ้าของพรรคที่คุณนิพิฏฐ์สังกัด ไปตำหนิ ส.ส. และ ปชป. ที่ภูเก็ต จนลามมาถึงเรื่องปัจจุบัน สำหรับข้อเท็จจริงในเรื่องการขายที่ดินให้ต่างชาตินั้น ตนจำเป็นต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นรายประเด็น ดังนี้
1. ความเป็นมาเรื่องนี้เริ่มจากเมื่อปี 2542 มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเพิ่มมาตรา 96 ทวิ ขึ้นใหม่ โดยอนุญาตให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ หากนำเงินมาลงทุนไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท และต้องดำรงการลงทุนไม่ต่ำกว่า 3 ปี เนื่องจากในปี 2540 ประเทศเกิดวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ทำให้ต้องการเงินตราต่างประเทศ
2. ต่อมาปี 2545 ครม.เห็นชอบกฎกระทรวงออกตามความใน ม.96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน วางแนวปฏิบัติกรณีคนต่างด้าวนำเงินมาลงทุน 40 ล้านบาทขึ้นไป จะขอซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี
3. ตั้งแต่ปี 2545 ถึงปัจจุบัน มีคนต่างด้าวใช้สิทธิตามกฎกระทรวงฉบับปี 2545 ไป 11 ราย ปัจจุบันขายต่อไปแล้ว 1 ราย และอีก 1 ราย ได้แปลงสัญชาติเป็นไทยไปแล้ว จึงคงเหลือ 8 ราย
4. ในปี 2563 ประเทศเกิดวิกฤตโควิด-19 ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ต่อมาในปี 2564 ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งได้กำหนดรายละเอียดไว้ดังนี้
4.1 กำหนดประเภทการตรวจลงตรา (วีซ่า) สำหรับผู้พำนักระยะยาว (Long-term resident visa: LTR) : มอบกระทรวงมหาดไทยพิจารณาให้วีซ่าเป็นพิเศษแก่คนต่างด้าว 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีความมั่งคั่งสูง /ผู้เกษียณอายุ /ผู้ที่ต้องการทำงานจากไทย /ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
4.2 ให้สิทธิประโยชน์ด้านอสังหาริมทรัพย์ : มอบหมายให้กรมที่ดินศึกษาในรายละเอียดแล้วนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ. พิจารณา
4.3 ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี : มอบหมายกรมสรรพากรเตรียมร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้ถือวีซ่า LTR
4.4 การปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสาร : มอบหมายกรมศุลกากร อำนวยความสะดวกการเดินทางพิเศษสำหรับผู้ถือวีซ่าประเภท LTR เป็นการเฉพาะ เทียบเคียงกับสถานะการเดินทางทางการทูต
4.5 จัดตั้งศูนย์บริการผู้พำนักระยะยาว (LTR-Service center) : มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นหน่วยงานหลัก
5. ในปี 2565 กรมที่ดินเสนอร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่มีหลักการคล้ายกับกฎกระทรวงปี 2545 เดิม ที่ให้ต่างด้าวเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับ LTR Visa เท่านั้น ที่นำเงินมาลงทุน 40 ล้านบาท สามารถซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ และต้องดำรงการลงทุนนั้นไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี (ลดระยะเวลาการดำรงการลงทุนจาก 5 ปี เหลือเพียง 3 ปี แต่ยังคงเป็นระยะเวลาภายในกรอบของ มาตรา 96 ทวิ ป.ที่ดิน) เพราะของเดิมไม่ดึงดูดคนมาลงทุน ซึ่ง ครม. เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงฉบับนี้เมื่ออังคารที่ผ่านมา
6. ต่อจากนี้ กรมที่ดินจะได้นำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามกฎกระทรวงที่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ พ.ศ. 2565 (ซึ่งมีผลใช้บังคับใช้ตั้งแต่ 8 ต.ค. 2565) ที่ออกตาม พ.ร.บ. หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 เสียก่อน จึงจะดำเนินการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า คุณนิพิฏฐ์เปลี่ยนไปเยอะจากที่เคยรู้จัก นึกไม่ถึงว่าจะกล้าบิดเบือนข้อมูลถึงขนาดนี้ ในส่วนของการตัดสินใจจะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อหรือไม่นั้น เป็นอำนาจของท่านนายกฯ ที่จะดำเนินการ ซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่าท่านนายกฯ และทีมที่ปรึกษาของท่านน่าจะมีเหตุผลและข้อมูลครอบคลุมทุกด้านอยู่แล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด อย่าใช้เรื่องนี้ทำลายคนและพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยให้โอกาสได้เป็นถึงรัฐมนตรีอีกเลย
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 พ.ย.65 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานภาคใต้ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมกับจดหมายเปิดผนึกและรายชื่อสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย 25 คน ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ขอให้ยกเลิกมติ ครม. ในการขายที่ดินให้ต่างชาติ ระบุว่า ขายที่ดินให้ต่างชาติ ผมให้ความเป็นธรรมนะ แต่ ยกเลิกเถอะครับ
1.ผมไม่เคยใช้คำว่า"ขายชาติ" กรณีขายที่ดินให้ต่างชาติ คนที่พอมีความรู้บ้างแล้วใช้คำแบบนี้ แสดงว่าไม่มีวุฒิภาวะ เพียงพอ
2.แต่ผมหงุดหงิดกับ การให้เหตุผลของอาจารย์วิษณุ เครืองาม ที่ให้เหตุผลว่า ต่างชาติซื้อที่ดินไปก็เอาที่ดินหนีบจั๊กแร้ไปไม่ได้ คนที่เชียร์ลุง สุดลิ่มทิ่มประตู ได้ยินก็เฮ ยกมือเชียร์ ดร.วิษณุ ผมว่า สิ่งที่ดร.วิษณุพูดเป็นทฤษฎี"ทำให้คนโง่แล้วปกครอง" นักปกครองส่วนหนึ่งจึงอยากให้คนโง่เพราะปกครองง่าย ผมว่า ดร.วิษณุ จนปัญญาที่จะให้ความรู้กับประชาชน นี่ผมผิดหวังท่านรองวิษณุ จริงๆ
3.มีเหตุผลเยอะแยะในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่จำเป็นต้องออกนโยบายนี้ในขณะนี้ ถ้าไม่รู้ ก็ถามผู้รู้ ปัญหาของรัฐบาลคือ ขาดแคลนผู้รู้ทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งนับวันจะมีปัญหามากขึ้น ต้องยอมรับว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจหรอก ความคิดนี้ เป็นความคิดของ คุณนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่กำกับกรมที่ดิน (ผมไม่พูดถึงเพื่อนผม คุณนิพนธ์ บุญญามณี ดีกว่า)
4.ยกเลิกมติ ครม. เถอะครับ ทบทวนใหม่ มตินี้ "มาไม่ตรงเวลา ไม่ตรงสถานการณ์" เรื่องการเมืองท่านไม่ต้องทุจริตหรอก เพียงประชาชน ไม่ไว้วางใจว่าท่านเริ่มจนปัญญาในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ท่านก็อยู่ลำบากแล้ว
5.พวกผม "สมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย ภาคใต้" ไม่กล่าวหาว่าท่าน ขายชาติ ท่านสบายใจได้ เพียงแต่เห็นว่า ท่ามกลางโลกที่ซับซ้อน ท่านขาดผู้รู้ ท่านขาดกัลยาณมิตรเสียแล้ว พวกผมสมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย ภาคใต้ รายชื่อท้ายนี้ จึงทำบันทึกถึงท่าน ขอให้ยกเลิกมติครม. ที่มาผิดกาล-ผิดเวลา นี้เสีย