ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าโดนคว่ำ

2022-11-03 00:05:25

 ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าโดนคว่ำ

Advertisement

ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าโดนคว่ำวาระ 3 เฉียดฉิว  196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 65 ในประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ...) พ.ศ. หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จำนวน 7 มาตรา ในวาระ2-3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญที่มีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กมธ.พิจารณาเสร็จแล้ว มีเนื้อหาปรับปรุงหลักเกณฑ์การขออนุญาตผลิตสุรา ให้ผู้ผลิตสุราหรือผู้ผลิตสุรารายย่อยขออนุญาตผลิตสุราได้เหมาะสมยิ่งขึ้น

โดยส.ส.อภิปรายแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะมาตรา 3 ขั้นตอนการยื่นขออนุญาตผลิตสุราที่กมธ.ไม่ให้กำหนดเรื่องกำลังการผลิต กำลังแรงม้า ทุนจดทะเบียน ซึ่งส.ส.ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคก้าวไกลรุมวิจารณ์การออกกฎกระทรวงอย่างเร่งด่วน เมื่อวันที่ 1พ.ย.2565 เพราะไม่อยากให้ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พรรคก้าวไกลผ่านวาระ 2-3 อีกทั้งการลดเงื่อนไขการผลิตสุราตามกฎกระทรวงไม่ใช่การปลดล็อกที่แท้จริง เพราะยังมีเงื่อนไขควบคุมผู้ประกอบ การรายย่อยมากมาย โดยนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. อภิปรายว่า ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าเป็นคนละฉบับกับกฎกระทรวง แม้กฎกระทรวงจะปลดล็อกเรื่องหนึ่ง แต่ไปล็อกอีกเรื่อง เช่น การให้โรงงานทำเบียร์ทำรายงานผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น หากเป็นโรงผลิตเบียร์ขนาดเล็ก ในกฎกระทรวงไม่มีการปลดล็อกเรื่องกำลังแรงม้า กำลังการผลิตสุรา ต่างจากร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าที่ปลดล็อกเรื่องเหล่านี้ เรื่องคุณภาพสิ่งแวด ล้อม แม้ไม่ได้กำหนดไว้ในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่มีกฎหมายอื่นบังคับควบคุมอยู่แล้ว ขอให้ช่วยกันปลดโซ่ตรวนไปให้ได้

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า กฎกระทรวงที่ ครม.เพิ่งออกเมื่อวันที่ 1พ.ย.เป็นแค่เปลี่ยนล็อกจาก “ล็อกเก่า” ไป “ล็อกใหม่” ยังมีการควบคุมการผลิตอยู่ มีปิศาจอยู่ในรายละเอียด บังคับจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เป็นบริษัท ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำ ไม่ช่วยปลดปล่อยศักยภาพผู้ประกอบการผลิตไทย วัตถุดิบ หรือทลายทุนผูกขาด เป็นกฎหมายหยุมหยิม อาจถูกขูดรีด ต่างจากเนื้อหาพ.ร.บ.ฉบับนี้ที่ปลดล็อกการผลิตสุราอย่าง ปลดปล่อยศักยภาพผู้ประกอบการไทยอย่างแท้จริง เพราะไม่จำกัดเรื่องกำลังแรงม้า กำลังการผลิต ป้องกันการถูกรีดไถ ยิ่งการขอผลิตสุราที่ต้องยื่นขออนุญาตเป็นเรื่องยากมาก เปิดดุลยพินิจให้ราชการรีดไถประชาชน รัฐบาลอ้างกลัวเหล้าเถื่อน สิ่งที่เถื่อนไม่ใช่เหล้า แต่คือกฎหมายที่กระบวนการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ใช้รีดไถผู้ประกอบการที่พยายามสร้างวัฒนธรรมแปรรูปสินค้าเกษตร การให้การผลิตสุราอยู่ในไม่กี่ครอบครัวต่างหากเป็นเรื่องเถื่อน การโหวตครั้งนี้อาจไม่มีความหมายกับส.ส. แต่มีความหมายกับผู้ประกอบการ เกษตรกร คนรุ่นใหม่ ที่สู้มานาน การโหวตครั้งนี้คือความหวังคนเหล่านี้ เป็นโค้งสุดท้ายที่จะมีความหวัง เรามาไกลเกินกว่าจะแพ้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ. อภิปรายว่า แปลกใจที่ออกกฎกระทรวงเร่งด่วน อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ในวันที่ 2พ.ย. จุดประสงค์ร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าอยากให้ทิศทางเปิดเสรีสุรามีความเป็นธรรม ไม่ถูกผูกขาด จะไปหวังพึ่งเฉพาะกฎกระทรวงไม่ได้ ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ในวันพรุ่งนี้จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขอีกหรือไม่ แทนที่จะออกเป็นพ.ร.บ.ที่มีความแน่นอนกว่า ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า วันนี้เป็นการวัดใจส.ส.ว่าจะกดต้อยๆ ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งมาหรือไม่ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่าน แสดงว่ายังมีส.ส.เชื่อฟังพล.อ.ประยุทธ์อยู่ เรื่องนี้เป็นการวัดใจจะยืนข้างทุนผูกขาดหรือยืนข้างประชาชน ขอให้ประชาชนเช็คชื่อส.ส.ที่โหวตได้เลย เรื่องนี้ไม่ต้องรอรัฐบาลหน้าแล้วค่อยทำ ขอให้สมาชิกยืนข้างประชาชน

ขณะที่นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายสนับสนุนการออกกฎกระทรวงว่า ไม่ติดใจเนื้อหาในกฎกระทรวงที่ให้ขออนุญาตผลิต แต่เป็นห่วงการผลิตสุราที่ไม่ได้รับอนุญาต จะไม่ได้มาตรฐาน ที่ผ่านมาการผลิตสุราไม่ชอบด้วยกฎหมายทำในบ้าน สกปรกไม่ได้มาตรฐาน ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านข้างเคียง จึงเห็นด้วยกับการขออนุญาตผลิตต้องเป็นไปตามกฎกระทรวง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ส.ส.อภิปรายมาตรา3อย่างเข้มข้นนานร่วม 2 ชม. ที่ประชุมจึงลงมติเห็นชอบมาตรา 3ด้วยคะแนน 178 ต่อ 4 งดออกเสียง 175 ไม่ลงคะแนน3 ขณะที่มาตราอื่น อาทิ มาตรา3/1 มาตรา3/2 มาตรา4 มาตรา5 ก็มีคะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่าไม่เห็นชอบ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีคะแนนงดออกเสียงใกล้เคียงกับคะแนนเห็นด้วย มีผลต่างห่างกันไม่เกิน 10เสียง หลังจากที่ประชุมพิจารณาครบทั้ง 7มาตราแล้ว กระทั่งเวลา 14.45น. ที่ประชุมลงมติวาระ3 ปรากฏว่า ที่ประชุมกลับมีมติไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 177ต่อ 174 งดออกเสียง11 ไม่ลงคะแนน 4 โดยคะแนนงดออกเสียงในรายมาตราพลิกกลับมาลงคะแนนไม่เห็นด้วย ทำให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม

อย่างไรก็ตามนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ขอใช้สิทธิตามข้อบังคับการประชุม ข้อ85 กรณีที่มีคะแนนต่างกันไม่เกิน 25เสียง สามารถนับคะแนนใหม่ โดยการขานชื่อรายบุคคลได้ โดยมีส.ส.ให้การรับรองถูกต้อง แต่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ คัดค้าน ขอให้นับคะแนนใหม่ด้วยการเสียบบัตรลงคะแนนเท่านั้น แต่ฝ่ายค้านยืนยันตามข้อบังคับการประชุมตามข้อ 85 ต้องให้นับคะแนนใหม่โดยการขานชื่อเท่านั้น ในที่สุดนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ตัดสินให้นับคะแนนใหม่โดยการขานชื่อรายบุคคล แต่ก็ยังเกิดความวุ่นวายตามมา เมื่อฝ่ายค้านให้นับองค์ประชุมก่อนการขานชื่อรายคน ระหว่างนั้นส.ส.เริ่มเดินออกจากห้องประชุม มีทีท่าองค์ประชุมจะไม่ครบ จนนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สอบถามว่า ขณะนี้ส.ส.เดินออกจากห้องประชุม ถ้าองค์ประชุมไม่ครบ หมายความว่า การกลับมาโหวตใหม่ครั้งหน้า ต้องใช้วิธีเสียบบัตรลงคะแนนใหม่หรือไม่ ซึ่งนายสุชาติ ชี้แจงทันทีว่า สภาค้างคาเรื่องใดไว้ต้องกลับมาดำเนินการต่อ ไม่สามารถยกเลิกเรื่องใดได้ สุดท้ายเมื่อนับองค์ประชุมเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า มีองค์ประชุม 257 ครบองค์ประชุม

จากนั้นเวลา 15.10น. เริ่มขั้นตอนการขานชื่อลงคะแนนรายบุคคล โดยส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ขณะที่บางส่วนของส.ส.ฝ่ายรัฐบาลลงมติงดออกเสียง และมีส.ส.ประชาธิปัตย์บางคนลงมติเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ อาทิ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ ส.ส.ชุมพร นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฎร์ธานี นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายบัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง อย่างไรก็ตามมีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลร่วม 30คน ที่ไม่อยู่ในห้องประชุมตอนลงมติขานคะแนน ส่วนส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่อยู่ในห้องประชุม ลงมติขานเห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ทั้งนี้ขานชื่อลงคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีส.ส.ร่วม30 คน ที่มาโหวตลงคะแนนไม่ทัน ส่วนใหญ่เป็นส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลได้แย่งกันขานชื่อลงคะแนน บางคนตะโกนขานชื่อตัวเองถึง 3รอบ จนชุลมุนมั่วกันไปหมด ทำให้นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องบอกให้สมาชิกใจเย็นๆ เกรงว่ากรรมการนับคะแนนจะจดผลคะแนนไม่ทัน เกิดความคลาดเคลื่อน โดยกรรมการนับคะแนนใช้เวลารวมคะแนนนานกว่า 1ชั่วโมง ก็ยังสรุปผลไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แจ้งว่า พรรคก้าวไกลได้ย้อนดูเทปช่วงขานชื่อลงคะแนน พบมีสมาชิกหมาย225 และหมายเลข255 โหวต 2ครั้ง ทำให้นางสุเนตตา แซ่โก๊ะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง ขอใช้สิทธิพาดพิงว่า หมายเลขตนคือ 255 แต่นายธีรัจชัยแย้งว่า คนที่ขานหมายเลข 255 เป็นผู้ชาย ซึ่งทางกรรมการนับคะแนนก็ระบุว่า ขอให้วางใจการทำหน้าที่นับคะแนน เพราะกรรมการประกอบด้วยฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ซึ่งนายสุชาติกล่าวเสริมว่า ถ้ามีใครมีหลักฐานว่า ใครขานชื่อซ้ำโดยทุจริต ก็ไม่ต่างจากการกดบัตรแทนกัน มีสิทธิที่จะไปฟ้องต่อได้

จนกระทั่งเวลา 17.15 น. ภายหลังการนับคะแนนเรียบร้อยแล้ว นายสุชาติประกาศผลการลงมติวาระ3 ปรากฏว่าที่ประชุมยังคงโหวตไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ด้วยคะแนน 196 ต่อ 194 งดออกเสียง 15 ถือว่าที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับ ร่างพ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต