"บิ๊กต่อ" เผยรวบ "พ.ต.ท." พร้อม จนท.กระทรวง ล้วงข้อมูลคนไทยขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนแลกรายได้เดือนละ 6 แสน
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 65 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท.1 กล่าวถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า จากปฏิบัติการเด็ดปีกมังกร จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์เมื่อต้นเดือน ต.ค.65 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) จับกุมผู้ต้องหาได้ 16 ราย เป็นกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีม้า 8 ราย กลุ่มรวบรวมบัญชีม้าเพื่อส่งต่อให้นายทุนชาวจีน 1 ราย และกลุ่มที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลผู้เสียหายเพื่อนำไปใช้ในการหลอกลวง 2 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์โอนเข้าบัญชีของเจ้าที่รัฐ 2 รายอย่างต่อเนื่อง คาดว่าทำมานานพอสมควร โดยมีข้อมูลของคนไทยถูกฉกไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 1,000 ข้อมูล โดยเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ราย อยู่ในส่วนงานที่สามารถดูฐานข้อมูลของผู้เสียหายได้
สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐรายที่ 1 เป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. พฤติการณ์คือจะเข้ารหัสไปกดดูฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหาย ส่วนรายที่ 2 เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ของกระทรวงแห่งหนึ่งจะเข้าระบบไปล้วงข้อมูลการจดทะเบียนการค้า หรือตราธุรกิจของผู้เสียหาย ไปขายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยดูข้อมูลว่าเหยื่อรายใดรวย มีทุนจดทะเบียนทางธุรกิจด้วยเงินจำนวนมากจึงนำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทั้ง 2 ราย จะมีรายได้จากการขายข้อมูลคนไทยเดียวกันให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนวันละ 2 หมื่นบาท หรือเดือนละ 6 แสนบาท โดยทางธนาคารพบการเคลื่อนไหวของเงินจากบัญชีม้า เข้ามายังบัญชีของผู้ต้องหา จึงประสานตำรวจตรวจสอบ และนำไปสู่การจับกุม
ผู้เสียหายรายล่าสุดที่ถูกฉกข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นแพทย์อาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมเว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วโทรแจ้งผู้เสียหายว่าทำความผิดคดีอาญาจะต้องถูกตรวจสอบเงินในบัญชี พร้อมส่งหมายจับปลอมที่มีภาพใบหน้าของผู้เสียหาย และข้อมูลทางธุรกิจไปให้ผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปยังบัญชี 6,970,000 บาท