"หญิงหน่อย"ผิดหวังโครงการ 30 บาทรักษาทุก ถูกนำมาใช้ในทางการเมือง ต่อยอดแบบผิด ๆ แข่งขันกันรักษาโรคด้วยราคาที่ถูกลงละเลยการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย อดีต รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า กรณีการระดมเงินเพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ส่วนตัวก็ขอขอบคุณทุกคนที่มีน้ำใจร่วมสละทรัพย์และแรงเพื่อส่วนรวม แต่เห็นว่าหากการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขกว่า 1.2 แสนล้านบาทมีประสิทธิภาพ ลดงบประมาณรายจ่ายประจำ และเพิ่มงบประมาณลงทุนด้านสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน พร้อมทั้งปฏิรูประบบการให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์เหนื่อยน้อยลง และทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
"แต่ทุกวันนี้นโยบาย Health Care มันกลับผิดเพี้ยนเป็นนโยบาย Sick Care ที่ป่วยตรงไหนไปเติมเงินตรงนั้น แต่ไม่ส่งเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายแรง ทั้งที่จริงแล้วโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคชื่อจริงๆ แล้วโครงการคือ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่ต้องทั้งให้สิทธิการรักษาพยาบาลและการบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานแก่ทุกคน โดยจะเห็นว่าในสมัยที่ตัวเองดูแลกระทรวงสาธารณสุขจะมีโครงการส่งเสริมสุขภาพควบคู่กับไปกับการรักษาด้วย เช่น การแข่งขันเต้นแอโรบิก หรือผักครึ่งนึงอย่างอื่นครึ่งนึง ที่เน้นการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อป้องกันก่อนเกิดโรคร้ายแรง เป็นแนวคิดที่จะทำให้คนไทยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน แต่หลังจากนั้นโครงการนี้ก็ถูกนำมาใช้ในทางการเมือง แข่งขันกันรักษาโรคด้วยราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ แต่ละเลยการสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน ทำให้หน้าที่ของบุคลากรการแพทย์หนักขึ้นและใช้งบประมาณไปกับการรักษาพยาบาลมากขึ้น แต่คนไทยสุขภาพไม่ดีขึ้น ทำให้หลายคนเข้าใจว่าสิทธิการรักษาพยาบาล ยิ่งทำให้คนเป็นโรคเพิ่มมากขึ้น เพิ่มภาระของบุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น
“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของประชาชน แต่คนเอาโครงการมาทำต่อแบบผิดๆ เน้นลดแลกแจกแถมหาเสียง แต่หลงลืมการสร้างสุขภาพที่ดีสำหรับคนที่ยังไม่ป่วย ดังนั้นถ้าบริหารจัดการให้ดี เราจะไม่ต้องให้ใครมาวิ่ง มาว่ายน้ำรับบริจาค หรือหมอและพยาบาลจะไม่คิดว่าต้องเหนื่อยขึ้นเพราะคนจนที่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลป่วยเยอะ แต่มันต้องเป็นหน้าที่ของรัฐที่ส่งเสริมให้ทุกคนสุขภาพดีและได้รับการบริหารที่เท่าเทียม” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว