ตำนาน "เด่น เด๋อ เทพ" ปิดฉากไปนานแล้ว อีกหนึ่งชีวิตก็ปิดฉากลงเช่นกัน เผยประวัติคณะตลกแห่งความทรงจำ ไม่มีวันลืมเสียงหัวเราะนั้นลงได้เลย
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจแก่ครอบครัวของดาวตลกผู้เป็นอีกหนึ่งในตำนานสร้างเสียงหัวเราะและความสุขเมื่อครั้งหนึ่งที่ยุคนั้นกำลังรุ่งเรือง "เด่น ดอกประดู่" ฉายา "ตลกพูดเพราะ" อย่างแรกที่ต้องทราบกันเลยว่า เด่น ดอกประดู่ เป็นเพียงชื่อที่ใช้ในการแสดง ชื่อกับนามสกุลที่แท้จริงคือ บรรพต วีระรัฐ

ชีวิตของ "คุณเด่น" น่าสนใจตั้งแต่วัยเด็ก ด.ช.บรรพต เกิดลืมตาดูโลกเมื่อปี พ.ศ.2485 ใน จ.สตูล แม้ครอบครัวจะไม่ได้ร่ำรวยนักแต่เรียนเก่ง สู้ชีวิต นั่งรถไฟเข้ากรุงเทพฯ นั่งรถเมล์จากหัวลำโพงเพื่อมาสอบแข่งขันที่ โรงเรียนวัดสุทธิวราราม และทำสำเร็จสอบติดตามฝัน จากนั้นเข้าสู่ชีวิตนักเรียนในรั้วลูกประดู่ โรงเรียนดุริยางค์กองทัพเรือ เคยเป็นถึงดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของโรงเรียน เป็นที่มาของมุกตลกที่แกเล่าอยู่บ่อย ๆ ว่าเคยโยนไม้ดรัมเมเยอร์ แล้วตัวเองวิ่งหนีจนคนแตกฮือ และช่วงชีวิตในรั้ว ลูกประดู่ นี่เองเป็นที่มาของฉายา เด่น ดอกประดู่ ที่ใช้ในการแสดง

ทั้งนี้ "เด่น เด๋อ เทพ" เป็นตลกระดับตำนาน ก่อตั้งตอนประมาณ พ.ศ.2520 เป็นตลกคาเฟ่คณะแรกๆ ของเมืองไทย ส่วนใหญ่เล่นตามคาเฟ่ ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยเริ่มจาก เด่น ดอกประดู่ และ เด๋อ ดอกสะเดา ออกมาจากการเป็นตลกวงดนตรีลูกทุ่งมาเล่นกับคณะสีสี่ แล้วออกมาตั้งคณะร่วมกับเด๋อ ดอกสะเดา 2 คนเล่นด้วยกัน อยู่ประมาณ 4 เดือน

ต่อมาจึงคิดด้วยกันว่า "หากเล่นด้วยกันแค่ 2 คนคงไม่ไหว เรายืนเล่นเด่นหันไปอีกฝั่งไม่มีใครจึงอยากให้มี 3 คน" "เด่น" จึงคุยกับ "เด๋อ" ว่า "มีลูกน้องตอนเล่น อยู่วงเพลิน พรหมแดน คือ "เทพ โพธิ์งาม" เดี๋ยวจะชวนมาเล่น" ตอนแรกเทพ โพธิ์งามบอกว่า "โถ่พี่วงลูกทุ่งปีหนึ่งเปลี่ยนมุกหนหนึ่ง คาเฟ่ต้องเปลี่ยนทุกวัน" (แต่สุดท้ายก็มา) จึงกลายเป็นตลกตำนาน "เด่นเด๋อเทพ" ในที่สุด

ซึ่งทั้ง 3 โด่งดังมากมีผลงานทั้งจอแก้วจอเงินมากมาย ตลกคณะ "เด่น เด๋อ เทพ" จึงเป็นขวัญใจประชาชนในสมัยนั้น คุณโรม บุนนาค แห่งค่ายไฟว์สตาร์ ทำหนังตลกเบาสมองออกมาเรื่องหนึ่งชื่อ "เทพบุตรตะติ๊งโหน่ง" นำเอาตลกคาเฟ่ ที่มีความสามารถหลากหลาย มาสู่จอเงินเป็นครั้งแรก ทำเงินหลายล้านอยู่เหมือนกัน เพราะมีนางเอกคือลลนา สุลาวัลย์ จากเรื่อง วัยอลวน



สมัยหนุ่มๆ เด่น ดอกประดู่ ถือเป็นดาวตลกที่รูปหล่อที่สุดคนหนึ่ง (ก็ดูหน้าเทพ เทียนชัย เป็นตัวอย่างละกัน ส่วนมากตลกทั่วๆ ไปจะขายสังขาร คือแค่มองก็ตลกแล้ว) หลังจากมาแสดงหนัง ชื่อของเด่นเด๋อเทพก็ติดตลาด จนต้องทำหนังภาค 2 ออกมาชื่อ "เท่งป๊ะต๊ะติ๊งโหน่ง" ทำเงินอีกหลายล้านเช่นกัน





