"พีท ทองเจือ" ลั่นเลือกภรรยาไม่ผิด โต้งมงาย พึ่งไสยศาสตร์รักษาอาการป่วยของลูกๆ

2022-10-10 17:15:01

"พีท ทองเจือ" ลั่นเลือกภรรยาไม่ผิด โต้งมงาย พึ่งไสยศาสตร์รักษาอาการป่วยของลูกๆ

Advertisement

"พีท ทองเจือ" ลั่นเลือกภรรยาไม่ผิด โต้งมงาย พึ่งไสยศาสตร์รักษาอาการป่วยของลูกๆ



เป็นอีกหนึ่งครอบครัวคนบันเทิงที่ลูกไม้หล่นใต้ต้นเลยทีเดียว สำหรับ พีท ทองเจือ ที่ตอนนี้ลูกสาว น้องมิย่า เดินรอยตามคุณพ่อเข้าวงการบันเทิงเต็มตัว มีเพลงใหม่ออกมาเป็นซิงเกิลที่ 2 อีกทั้งยังได้เป็นนางเอกภาพยนตร์อีกด้วย ส่วนน้องเซย่าก็เก่งมาก อายุ 17 ปี แต่เรียนมหาวิทยาลัยปี2 แล้ว ด้านลูกชายคนเล็กน้องโรเตอร์ ก็ชอบกีฬาตามรอยคุณพ่อเป๊ะๆ ซึ่งงานนี้คงต้องยกความดีความชอบให้กับภรรยาคนเก่ง เจ็ง วิไลลักษณ์ ที่เป็นทั้งคุณแม่ เป็นทั้งพี่และเพื่อนให้กับลูกๆ






ล่าสุด พีท ทองเจือ ได้ยกทั้งครอบครัวมาเปิดใจทุกเรื่องราวต่างๆ ผ่านทาง รายการ ฮัลโหล ซุปตาร์ ทางช่อง 7HD  บอกเลยพ่อพีทถึงกับพูดกลางรายการ ว่าผมเลือกเมียไม่ผิดคน



ย้อนกลับไปที่ความรักของพี่พีท ตอนนั้นฮอตมา จำได้ว่าเรื่องราวเกิดขึ้นที่สยาม ?
พีท : ช่วงนั้นถ่ายละครเยอะมาก 8 ปี คิว 7 วัน มันไม่มีวันหยุด วันที่ยกกองเหมือนวันที่เราถูกหวย ผมก็ไปเดินสยามคนเดียว ไม่มีเวลาเรียกเพื่อนหรอก เขายกกองเดี๋ยวนั้น เราก็ไปเลย ช่วงนั้นไม่มีโทรศัพท์ แล้วคนเวลาชื่นชมเรา หรือเป็นแฟนคลับ เขาจะเข้ามาขอลายเซ็น นอกจากใครที่พบกล้องมาเขาก็จะได้ถ่าย แล้วกล้องตอนนั้นก็เป็นฟิล์มด้วย แล้วมีผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมาขอลายเซ็น แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ไกลๆ เราก็เซ็นไปมองไปทำไมผู้หญิงคนนี้ไม่มา พอเราแจกลายเซ็นทุกคนครบเราก็เดินไปคุยกับเขา

แสดงว่าปิ๊งเขาด้วย ?
พีท : ใช่ครับ น่ารักๆ



รู้ไหมว่าพี่พีทแอบมองเรา ?
เจ็ง : ไม่รู้เลยจริงๆ แล้วตอนที่เป็นวัยรุ่นเราไม่อินกับดาราไทย เราชอบดาราต่างประเทศ จริงๆ ชอบสาย ฝ. จำได้ช่วงนั้นกลับมาจากออสเตรีย เราไม่ได้โฟกัสเรื่องอะไรอย่างนี้ เราอยากไปช้อปปิ้ง อยากซื้อของ

ผู้หญิง 3 คนของบ้านนี้เขาบอกเป็นพี่น้อง 3 สาว ?
เจ็ง : จริงมันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจตั้งแต่ตอนเด็กๆ ด้วยความที่พ่อดุมากจะไปไหนต้องขอล่วงหน้า 1 อาทิตย์ ถ้าขอ 3 วันล่วงหน้า พ่อบอกไม่ได้ เขาไม่มีเวลาคิด ต้องให้เวลาพ่อคิด คัดสินใจก่อนว่าเหมาะสมจะไปหรือเปล่า ขนาดนั้น เราก็เลยปณิธานกับตัวเองว่าถ้าฉันมีลูก ฉันต้องเป็นเพื่อนลูก ไปเที่ยวกับลูก พาลูกไปเที่ยวเป็นเพื่อน เราตั้งใจอย่างนั้นมันก็เลยเป็นอย่างนั้น

น้องเซย่า : เวลาหนูไปเที่ยวกับเพื่อนคุณแม่ก็ไปด้วย



เจ็ง : ปาร์ตี้วันเกิดอะไรก็อยู่ด้วยหมด มีงานหนึ่งเพื่อนรุ่นพี่ชวนลูกๆ ไปเราก็ไปด้วย ไปๆ มาๆ ปรากฎว่าลูกโดนทิ้งเพื่อนลูกมาอยู่กับเรา



พี่พีทรู้สึกยังไงบ้างที่พี่เจ็งเป็นตัวแทนเราอยู่กับลูกๆ ตลอดเวลา ?
พีท : เอาง่ายๆ ตรงๆ เลยใช้คำว่าเลือกคนไม่ผิด



พีทกับเตอร์เหมือน 3 สาวที่อยู่ด้วยกันไหม ?
พีท : อยู่ด้วยกันตลอด อย่างช่วงนี้น้องมิย่าเดินสายโปรโมตเพลง แล้วก็มิย่า เซย่าจะงานเยอะ เดี๋ยวแฟชั่นโชว์ อีเวนต์ใดๆ เยอะมาก แล้วน้องโรเตอร์เป็นนักแข่งเหมือนผม ส่วนมากผมกับโรเตอร์จะไปอยู่สนามแข่งที่พัทยา ซ้อมบ้าง แข่งบ้าง สาวๆ ก็จะอยู่กรุงเทพฯ ก็จะเหมือนแยกทีมกัน นอกจากว่าถ้าเป็นถ้าเป็นวันแข่งของโรเตอร์ทุกคนจะต้องแคนเซิลทุกอย่างแล้วไปอยู่กับน้องไปให้กำลังใจ

เตอร์เคยคิดไปถึงระดับโลกเลยไหม มีไหมความใฝ่ฝันของเรา ?
โรเตอร์ : ก็อยากไปแข่งเมืองนอกครับ

โรเตอร์มีแว็บๆ มาทางวงการ อยากไปเต้นกับพี่เขาไหม?
มิย่า : ทุกคนอยากให้น้องเข้าวงการ เป็นดารา จริงๆ น้องร้องเพลงเก่ง แต่ไม่ค่อยร้องให้ฟัง

มีหลายคนเม้าท์ว่าบ้านนี้เลี้ยงลูกโตเกินวัยเคยได้ยินไหม ?
พีท : เคยได้ยินครับ คือที่บ้านจะเน้นให้ลูกๆ ค้นหาตัวเองให้เร็วที่สุด ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่เขาถนัดและเลือกที่จะทำ น้องๆ ก็จะทำสิ่งต่างๆ เยอะกว่าเด็กวัยเดียวกันแน่นอน แต่ผมจะขอว่าใครจะไปถนัดทางใดก็แล้วแต่ แต่สิ่งสุดท้ายที่ต้องการเห็นคือ ถ้าเพื่อนในวัยเดียวกัน หรือเพื่อนของเรามีวุฒิอะไรลูกทุกคนก็ต้องมีเหมือนเพื่อน ไม่ใช่ว่าเรียนแค่นี้พอ ไม่ได้ ถ้าเพื่อนจบปริญญาตรี ทุกคนก็ต้องจบ ต้องเรียนตามระบบแต่ว่าในการใช้ชีวิต ผมว่าตอนนี้มันไม่มีเวลาให้เสียแล้ว เวลาชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ เราควรที่จะให้น้องค้นหาตัวเองให้เจอเร็วที่สุด ไม่ใช่ว่าเรียนจบแล้วค่อยคิด อย่างเซย่า ตอนนี้ 17 เขาขึ้นปี2 แล้ว เขาเจอแล้วว่าเขามีสกิลเรื่องศิลปะ อาร์ต ตอนนี้ก็เลยเรียนศิลปกร



ปกติ 17 เขาอยู่ ม.5 นี่อยู่ปี 2 เพื่อนๆ ไม่งงเหรอ ?

เซย่า : หนูสอบเทียบค่ะ ทุกคนก็จะมาณจะ 19 กันหมดแล้ว

อยากรู้ว่าน้องๆ เวลามีกระแสดราม่าเข้ามา เรามีวิธีรับมือยังไง มีน้อยใจจนคุณพ่อ คุณแม่ต้องอธิบายบ้างไหม ?
มิย่า : หนูไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่จะเป็นพี่เซย่ามากกว่า

ตอนนั้นเซย่าต้องกลับมาเพราะป่วย ?
เซย่า : ใช่ค่ะ ตอนนั้นก็ตั้งเป้าไปเป็นศิลปินต่างประเทศ พอไปแล้วทุกอย่างฝึกโอเคหมดเลย แค่มีเรื่องอาหาร เหมือนเขาให้อาหารน้อยจนทำให้เหมือนหนูขาดสารอาหาร ตอนนี้เหมือนไทรอยด์หนูหายไปนิดหนึ่งเป็นไทรอยด์ต่ำเลยต้องกินยาเสริมฮอร์โมน

สำหรับเรื่องนี้หนูเคยโดนดราม่าด้วยเหรอ ?
เซย่า : ไม่ดราม่าหรอกค่ะ แต่พอไทรอยด์ต่ำ น้ำหนักจะขึ้น เพราะมันเผาผลาญไม่ได้ ตอนนั้นหนูน้ำหนักขึ้นประมาณ 14 โล จากผอมมากๆ เพราะเขาให้ลดน้ำหนัก อยู่ๆ ก็อ้วน ก็จะมีบางคอมเมนต์ที่บอกว่าหนูอ้วน

เจ็ง : เวลาที่ไทรอยด์ต่ำอาการหนึ่งของมันจะมีเหมือนภาวะโรคซึมเศร้า มันก็จะดาวน์ จิตตก อะไรนิดเดียวก็ไม่ได้เขาจะแบบเซ้นซิทีฟง่ายจากภาวะไทรอยด์ต่ำ

พี่พีททำยังไงตอนนั้น ?
พีท : ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

เจ็ง : สุขภาพก็อีกเรื่อง สุขภาพใจก็สำคัญ เพราะว่าตอนนั้นอะไรกระทบเขานิดนึงเขาจะจิตตก เขาจะดาวน์มาก บางวันตี2 นั่งร้องไห้ ทุกคนก็ต้องลุกขึ้นมาช่วยดูแล อยู่เป็นเพื่อน



ทุกวันนี้ทุกอย่างแฮปปี้ ?
เซย่า : ค่ะ

พีท : ตอนนั้นพี่ใช้วิธีแก้ปัญหาคือ เหมือนกลับจากเกาหลี แล้วเรื่องสุขภาพทำให้เขาดาวน์ลง จิตตก ผมก็เลยบอกว่าเราต้องหยุดทุกๆ ความคิดไว้ก่อน แล้วก็ใช้วิธีหันไปโฟกัสสิ่งที่เราไม่ได้ทำหรือขาด คือตอนนั้นเหมือนเราออกจากโรงเรียนตอนอายุ 14 เราก็เลยบอกว่าให้เขาไปโฟกัสเรื่องเรียนก่อน พอเขาเข้าโรงเรียนปุ๊บมันทำให้เขาโฟกัสเปลี่ยน แล้วเริ่มดีขึ้น เราก็คิดว่าน้องคงไปเรียนปกติ ผลสอบออกมา ปีแรกที่จบปี1 ผลสอบคือ 3.95 มันทำให้เราเห็นว่าน้องเขาเวลาที่โฟกัสบางสิ่งบางอย่างเขาตั้งใจมากๆ

เตอร์เคยเกิดอุบัติเหตุ ครั้งล่าสุดเป็นอะไร ?
โรเตอร์ : แขนหักครับ เล่นสเก็ต

พีท : ก่อนแขนหักเป็นที่สะโพก หัวกระดูกที่สะโพกเคลื่อน อันนี้หนัก เดินไม่ได้เฉียดๆ ปี พี่พีทพยายามแยกกิจกรรมนี้ออกให้ไกลๆ เขา พอสะโพกหาย เดินได้ แขนหักอีก ผมก็เลยรีบพาไปอยู่สนามแข่งเยอะๆ ให้ไปขับรถดีกว่าปลอดภัยกว่า

บ้านนี้เขาแอบมู มูอะไรบ้าง รักษาลูกเนี่ยใช้วิธีมูด้วย ?
พีท : รักษาน้อง 2 คน เรารักษาทุกวิธีทั้งโรงพยาบาล หมอที่เก่งที่สุด แพทย์ทางเลือก ไม่ทานยา ใช้เสริมวิตามินที่ร่างกายขาดเข้าไป หรืออแร่ธาตุที่ไม่มีเพื่อให้ระบบมันทำงานสมบูรณ์ขึ้น แล้วก็มีการวิเคราะห์จากหมอแพทย์แผนปัจจุบันที่ทานยาตามอาการ หรือควบคุมยามันไม่ได้ตอบโจทย์ 100% อย่างของเซย่า ไทรอยด์เราทำอะไรกับมันมากไม่ได้ อย่างน้องโรเตอร์เรื่องกระดูกตรงหัวสะโพกเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนั้นหมอทุกๆ ท่านที่เราไปพบ แนะนำให้ผ่าตัดแล้วเอาน็อตฝังเข้าไป

เจ็ง : ถ้าเป็นหัวกระดูกของผู้ใหญ่อีกเรื่องนะ เพราะเสียบไปมันไม่ได้มีผลอะไร มันอาจจะช่วยไม่ให้มันเคลื่อนเพิ่ม แต่ของเด็ก คือกระดูกอ่อนอยู่ตรงกลาง เพื่อให้มันยืดความสูง แต่พอไปเสียบปุ๊บกระกลายเป็นว่ากระดูกข้างนั้นที่เสียบมันยืดไม่ได้แล้ว มันทำให้เราคิดเยอะ เพราะมันจะทำให้ขาไม่เท่ากัน ซึ่งจะผ่าหรือไม่ผ่าก็มีผลเสียทั้งสองอย่าง เพราะฉะนั้นเราเลือกที่จะไม่ผ่า เพื่อที่จะไม่เสี่ยงกระดูกขาลูกจะไม่เท่ากันดีกว่า เพราะมันเป็นผลระยะยาวมากกว่า



แล้วทางเลือกหนึ่งก็คือการมู ?
พีท : เอาเบื้องต้นก่อนจากที่ดูมันต้องใช้ความมหัศจรรย์คือเราไม่มีใครบอกได้ เพราะเราไม่ได้ทำตามระบบ ถ้าตามระบบคือ ผ่า เอาน็อตเสียบ ผมก็คุยกับคุณหมอว่าถ้าเอาน็อตเสียแล้วจะเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่เคลื่อนที่เพิ่ม แต่ถามว่าพอผ่าปุ๊บก่อนที่คุณจะเสียบน็อตท่านได้พากระดูกเข้าที่เดิมไหมแล้วค่อยยึดน็อต เขาไม่ได้พากระดูกเข้าที่เดิมนะ เขาแค่ผ่ายึดไว้ไม่ให้มันเคลื่อนเพิ่ม อันนี้มันแก้ปัญหาปลายเหตุละ เพราะฉะนั้นเราคิดเยอะ เพราะน้องอายุแค่ 12 เราไม่อยากให้น้องเดินขาไม่เท่ากัน ก็เลยต้องอาศัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เอาทางวิทยาศาสตร์ก่อน คือ 1.เรากายภาพให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมันแข็งแรงขึ้น เพื่อที่จะพยุงไม่ให้มันเคลื่อนเพิ่ม 2.คือการจัดกระดูก แต่ถ้าจะจัดโยกเข้าที่เลยมันทำไม่ได้ มันจะมีผลระยะยาว เพราะฉะนั่นจัดร่างกายให้มันอยู่ในสัดส่วนที่ถูกต้องก่อนแล้วกายภาพให้แถวนั่นมันแข็งแรง คือเตรียมร่างกายเอาไว้ แล้วมีความหวังว่าพอน้องโตเต็มที่มันจะเข้าที่เอง สิ่งที่ผมต้องการคือ การให้มันเข้าที่เองให้ได้ หรือไม่ก็ไม่เคลื่อนที่เพิ่มนี่คือสิ่งที่ต้องการมากๆ ไปหลายที่ ดูหลายวิธี แต่ที่ผมรู้สึกมั่นใจ ผมเป็นลูกศิษ์หลวงพ่อวรา วัดโพธิ์ทอง ผมศรัทธา ผมคิดว่าเป็นทางเลือก

เจ็ง : คือเราไม่ได้ไปมูโดยที่ไม่ทำอย่างอื่น เรามูด้วย ปฏิบัติตามสิ่งที่มันควรทำด้วย หาหมอทางเลือก นู้นนี่นั่น หลายอย่าง มันก็ควบคู่กัน ไม่ได้งมงาย 100%

ปัจจุบันน้องปกติแล้ว ?
เจ็ง : ใช่

ตอนนี้ใครขึ้นแท่นจะเป็นดารา ?
มิย่า : หนูมีเล่นหนังไปเรื่องหนึ่ง เป็นนางเอก เรื่อง 16 ห้าว 19 เดือด เป็นภาคต่อของ มึง กู เพื่อนกันจนวันตาย แล้วก็มีเพลง Get Like Me เป็นซิงเกิลที่2 แล้วค่ะ



คุณพ่อแนะนำอะไรไหม ?
มิย่า : คุณพ่อแนะนำเรื่องสายตา ถ้าเล่นดี แต่ตาแข็งมันก็ไม่สมจริง เขาจะสอนเรื่ององศาหน้าด้วย

ภูมิใจในตัวลูกๆ ทั้ง 3 คนไหม ?
พีท : เอาง่ายๆ ไปไหนอยากให้เป็นที่เอ็นดูของพี่ๆ ทุกคนแล้วไปไหนคนก็รัก อยากให้เขาพอตัวเองได้ดีมีโอกาสแล้วก็รู้จักแบ่งปันแล้วให้โอกาสคนอื่นๆ ด้วย

เจ็ง : ภูมิใจมากค่ะ

ความรักของคู่นี้เพิ่งฉลองครบรอบแต่งงาน 21 ปี ให้ลูกๆ เมาท์ดีกว่า ?
เซย่า : หนูว่าจริงๆ ต้องมีสักฝ่ายที่อ้อนง้อหรือพยายามพูดคำหวานๆ ทุกวัน คุณพ่อจะเป็นคนแบบปากหวาน

มิย่า : ส่วนมากคุณแม่จะเป็นคนแมนๆ แบบทำกับข้าวอยู่คุณพ่อจะไปข้างหลังแล้วก็กอด คุณแม่ก็แบบ อุ้ย...ออกไป อะไรแบบนี้

โรเตอร์ : ส่วนมากพ่อจะหวาน แม่ก็จะเค็มๆ

ปกติเคยเห็นคุณแม่อ้อนคุณพ่อบ้างไหม ?
โรเตอร์ : ไม่เคยเลย

เจ็ง : เราไม่ให้ลูกเห็นไง ผู้หญิงถ้าดูง่ายๆ มันก็ไม่น่าค้นหา




คลิปสัมภาษณ์ พีท ทองเจือ และ ครอบครัว
https://fb.watch/g12g2huMTu/