ศธ.ขานรับนโยบายนายกฯติดตั้งประตู-หน้าต่างนิรภัยศูนย์เด็กเล็กทั่วไทย

2022-10-10 14:59:40

ศธ.ขานรับนโยบายนายกฯติดตั้งประตู-หน้าต่างนิรภัยศูนย์เด็กเล็กทั่วไทย

Advertisement

รองโฆษกรัฐบาลเผย รมว.ศธ.ขานรับนโยบายนายกฯ ให้อาชีวะติดตั้งประตู หน้าต่างนิรภัย ศูนย์เด็กเล็ก รร.ปฐมวัยทั่วประเทศ พร้อมติดตั้งระบบเตือนภัยส่งถึงตำรวจ

เมื่อวันที่ 10 ต.ค.65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ เร่งดำเนินการตามนโยบายเร่งด่วน ของ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในการหามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเหตุร้ายภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียนสอนเด็กปฐมวัย ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ

น.ส. ทิพานัน กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ติดตั้งระบบประตูป้องกันภัย ให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กสังกัดและโรงเรียนสอนเด็กปฐมวัย ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงมหาดไทยทั่วประเทศ เพื่อคัดกรองบุคคลแปลกหน้าเข้า-ออกในพื้นที่ โดยให้ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคและอาชีวะในสังกัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประสานกับหน่วยการจัดการศึกษาปฐมวัยในจังหวัด สังกัด สพฐ. เทศบาล องค์กรบริหารส่วนจังหวัด  องค์กรบริหารส่วนตำบล และเอกชน สำรวจความต้องการจัดตั้งระบบป้องกันภัย ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ โดยให้สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง อาทิ ช่างเชื่อม ช่างก่อสร้าง ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างเมคคาทรอนิกส์ และช่างไฟฟ้า จัดทำและติดตั้งระบบป้องกันภัย เบื้องต้น ได้ประสานให้วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา เป็นจังหวัดต้นแบบนำร่อง ออกแบบทดลองระบบป้องกันภัยให้กับเด็กเล็ก โดยมุ่งหวังให้เป็น  "ประตู-หน้าต่างนิรภัย"ศูนย์เด็กเล็กแบบครบวงจร ทั้งคุณภาพและความแข็งแรง มีระบบเตือนภัยภายใน มีกล้องตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยง และเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที ซึ่งนายธนภัทร แสงจันทร์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา ได้เร่งดำเนินการออกแบบและจัดหาอุปกรณ์ในการดำเนินการ และคาดว่าต้นแบบจะออกมาให้ได้ภายในสัปดาห์หน้า

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจ โดยนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมระดมมาตรการเพื่อออกแบบให้สถานศึกษา มีความปลอดภัยในทุกระดับ โดยเฉพาะกำลังพิจารณาแนวทางในการติดตั้งสัญญาณ SOS ขอความช่วยเหลือไปยังสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งเน้นย้ำการซักซ้อมวิธีการเอาตัวรอดจากการเผชิญเหตุร้าย เพื่อให้บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน มีทักษะสามารถปฏิบัติตามวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อลดการสูญเสีย