ทำเสียภาพลักษณ์ รวบโชว์เฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์ นทท.จีน

2018-01-21 18:05:57

ทำเสียภาพลักษณ์ รวบโชว์เฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์ นทท.จีน

Advertisement

รวบโชว์เฟอร์แท็กซี่ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวจีนทำเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ


เมื่อวันที่ 21 ม.ค. พ.ต.อ.ศราวธุ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 และนายวสุ มงคลแก้ว เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน พร้อมด้วยกำลังตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายทบ โพริตน์ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.22/2561 ข้อหา "ลักทรัพย์โดยใช้พาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป" พร้อมของกลางกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ เงินสกุลหยวน 1 ใบ เอกสารบัตรเครดิตของนักท่องเที่ยวชาวจีน และรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทศ-5910 กทม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ


สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งจากนายเซยู ชานดง Mr.Zeyu Shandong) อายุ 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวจีน ว่าถูกคนร้ายก่อเหตุขโมยกระเป๋าสตางค์ ภายในมีทรัพย์สิน ประกอบด้วย เงินสกุลหยวนจำนวน 500 หยวน เงินไทยจำนวน 4,000 บาท บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรประจำประชาชนของจีน เหตุเกิดภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านตลาดนาเกลือ ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ออกหาข่าวและตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายทบ คนขับรถแท็กซี่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ และสามารถจับกุมได้ขณะมารอรับผู้โดยสารบริเวณ ปากซอยสุขุมวิทพัทยา 22 ย่านนาเกลือ อ.บางละมุง พร้อมของกลางกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหายและทรัพย์สินบางส่วน




สอบปากคำนายทบ ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุตนเองไปนั่งที่หน้าล็อบบี้ของโรงแรมเพื่อรอรับลูกค้า จู่ๆ หันไปเห็นกระเป๋าสตางค์วางอยู่บนโซฟา ส่วนเจ้าของกระเป๋ากำลังยืนคุยกับพนักงานที่ล็อบบี้ ตนเห็นสบจังหวะจึงหยิบเอามาซ่อนไว้ก่อนรีบหลบหนีไป จากนั้นจึงเอาเงินสกุลหยวนไปแลกเป็นเงินไทยนำไปจ่ายค่างวดรถและใช้ในชีวิตประจำวัน ตอนแรกตั้งใจว่าจะนำกระเป๋าพร้อมเอกสารของผู้เสียหายไปวางคืนไว้ที่ใดที่หนึ่ง แต่ก็มาถูกจับกุมเสียก่อน ทั้งนี้ตนต้องกราบขอโทษประชาชนและเพื่อนร่วมอาชีพทุกคนที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศ

ด้าน พ.ต.อ.ศราวธุ เผยว่า เบื้องต้นคดีนี้เป็นความผิดทางอาญา ภายหลังจึงส่งตัวผู้ต้องหาให้ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย และฝากไปถึงคนขับแท็กซี่ทุกคนว่าอย่าเอาไปเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยว




ขณะที่ นายวสุ มงคลแก้ว เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน เปิดเผยว่า ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก ได้ทำการยึดใบอนุญาตขับขี่ของนายทบ ไว้ ตามมาตรา 54 วรรค 3 พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ซึ่งจะไม่สามารถนำไปใช้ขับขี่รถแท็กซี่ได้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังการแถลงข่าวทางผู้เสียหายชาวจีนพร้อมภรรยา ได้นำช่อดอกไม้มามอบให้กับตำรวจชุดจับกุม พร้อมกับกล่าวผ่านล่ามว่ารู้สึกประทับใจในการทำงานของตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องเงินที่หายไปตนเองไม่ได้คิดอะไรมาก แต่เสียดายกระเป๋าสตางค์ที่ภรรยาซื้อให้ เพราะถือเป็นสิ่งแทนใจ หากไม่ได้คืนตนคงเสียใจแน่ๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณตำรวจอีกครั้ง หากมีโอกาสก็จะกลับมาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง