แฉประวัติ "ไอ้แมน" อดีต ตร.คลั่งกราดยิง

2022-10-06 17:18:47

แฉประวัติ "ไอ้แมน" อดีต ตร.คลั่งกราดยิง

Advertisement

แฉประวัติ "ไอ้แมน" อดีต ตร.คลั่งกราดยิงเสพยาบ้ามาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนมีเป็นร้อยเม็ด ไม่เห็นมีใครมาจับกุม ชอบมั่วสุมดื่มสุราในห้องพักเสียงดัง โดนจับมียาบ้าไว้ในครอบครอง ก่อนถูกไล่ออกจากราชการ

จากกรณี ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ หรือ "แมน" อดีตตำรวจ สภ.นาวัง ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการในคดียาเสพติด จะต้องขึ้นศาลในวันพรุ่งนี้ เกิดคลุ้มคลั่งขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน กธ 6499 กรุงเทพมหานคร บุกเข้าไปกราดยิงเด็กเล็ก ครู ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ และประชาชนในพื้นที่ ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู จนมีผู้เสียชีวิต 34 ราย บาดเจ็บอีกหลายราย  ต่อมา ส.ต.อ.ปัญญา ได้ขับรถหลบหนีกลับมาบ้านพัก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ ก่อนจะยิงตัวเองและลูกเมียเสียชีวิต 3 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติ ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ เกิดวันที่ 4 มิ.ย. 2531 อายุ 34 ปี บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2555 ตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ยานนาวา ย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.นาวัง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2562 ตามคำสั่ง ภ.4 ที่ 1338/2562 ลงวันที่ 30 มิ.ย.2562   เริ่มมีปัญหาทะเลาะกับแฟน เนื่องจากแฟนไม่ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน และเริ่มมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนร่างกายซูบผอม มีอารมณ์ฉุนเฉียวเพื่อนข้าราชการตำรวจไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เมื่อออกปฏิบัติหน้าที่ ก็ไม่เชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยธนาคารออมสิน ส.ต.อ.ปัญญา ไม่ได้เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ กลับไปนอนอยู่ในรถซึ่งจอดไว้หน้าธนาคาร เมื่อผู้จัดการธนาคารออมสินได้ขอความช่วยเหลือ โดยให้คุ้มกันการเคลื่อนย้ายนำเงินเข้าเครื่อง ATM กลับแสดงอาการไม่พอใจ ทำท่าจะชักปืนขู่ ทำให้ผู้จัดการต้องโทรศัพท์แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ส.ต.อ.ปัญญา ได้เริ่มคบกับ น.ส.หญิง ไม่ทราบนามสกุล พนักงานร้านคาราโอเกะ ปัจจุบันปิดกิจการเนื่องจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.หญิง เคยเป็นแฟนกับ นายเดย์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ซึ่งขณะนี้ถูกจำคุกอยู่ที่เรือนจำจังหวัดหนองบัวลำภู  เมื่อคบกับ น.ส.หญิง มักพาเพื่อนมามั่วสุมดื่มสุรา และส่งเสียงดัง ที่ห้องพักข้าราชการตำรวจ เป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่ข้าราชการตำรวจและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเมื่อเมาสุราแล้ว ส.ต.อ.ปัญญา จะชอบนำอาวุธปืนมายิง ทำให้ไม่มีคนกล้าเข้าไปยุ่ง และเคยนำอาวุธปืนไปยิงสุนัขของประชาชน จนต้องมีข้าราชการตำรวจไปไกล่เกลี่ย

เมื่อเดือน ก.ค.2564 ส.ต.อ.ปัญญา ได้มั่วสุมดื่มสุราในห้องพัก ส่งเสียงดังรบกวน ได้มีเพื่อนข้าราชการตำรวจไปตักเตือน แต่ ส.ต.อ.ปัญญา กลับด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย และเข้ามาทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ทะเลาะวิวาทกัน ผู้บังคับบัญชาได้เรียกตัวมาทำทัณฑ์บนไว้

พ.ต.อ.สุวัฒชัย มะลิทอง ผกก.สภ.นาวัง ในขณะนั้น ได้เรียก ส.ต.อ.ปัญญา มาสอบถาม และเจ้าตัวได้ยอมรับว่า ได้เสพสารเสพติดตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมแล้ว และรับปากกับผู้บังคับบัญชาว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงได้ทำการยึดอาวุธปืน ของ ส.ต.อ.ปัญญา ไว้เพื่อป้องกันการก่อเหตุ

สภ.นาวัง ได้ดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ตามโครงการตำรวจสีขาว ไม่ให้ข้าราชการตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังได้รับรายงานว่า ส.ต.อ.ปัญญา ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และต่อมาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2565 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้เข้าตรวจค้นจับกุมปรากฏหลักฐานตามบันทึกจับกุม ในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน ส.ต.อ.ปัญญา ให้การรับสารภาพ  เมื่อถูกจับกุมได้ซักถาม ส.ต.อ.ปัญญา ได้ให้ถ้อยคำว่า “สูบยาบ้ามาตั้งนานแล้ว เมื่อก่อนมียาบ้าเป็นร้อยๆ เม็ด ไม่เห็นมีใครมาจับกุม” อย่างไรก็ตาม ส.ต.อ.ปัญญา รับสารภาพว่า ยาบ้าของกลางที่ชุดจับกุมพบเป็นของตนเอง โดยได้รับมาจากอดีตตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งถูกไล่ออกจากราชการแล้ว  เมื่อ ส.ต.อ.ปัญญา ได้ถูกจับกุมและย้ายออกจากบ้านพักแล้ว ข้าราชการตำรวจ สภ.นาวัง รู้สึกผ่อนคลาย และทำงานโดยไม่มีความหวาดระแวง 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ได้ลงนามในคำสั่ง ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 292/2565 เรื่อง ลงโทษไล่ออกจากราชการ  ระบุว่า  ด้วย ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ (งานป้องกันและปราบปราม) สภ.นาวัง มีกรณี ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 51/2565 ลงวันที่ 20 ม.ค. 2565 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ 52/2565 ลงวันที่ 20 ม.ค.2565  เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ผลการสอบสวนรับฟังได้ว่า ส.ต.อ.ปัญญา กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง กรณีต้องหาคดีอาญา ข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และกระทำหรือละเว้นการกระทำใดๆ รวมทั้งการกระทำผิดตามมาตรา 78 (1) อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง  คณะกรรมการสอบสวน จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่าการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง ตามแนวทางการลงโทษวินัยอย่างร้ายแรง เห็นควรลงโทษ “ไล่ออก” ส.ต.อ.ปัญญา  โดยคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองการพิจารณาสั่งลงโทษ ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ในการประชุม ครั้งที่ 1/2565 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2565 คณะกรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ส.ต.อ.ปัญญากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงเห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวน ลงโทษไล่ ส.ต.อ.ปัญญา  ออกจากราชการ โดยไม่มีเหตุอันควรลดหย่อนโทษให้ ทั้งนี้ให้มีผลย้อนหลัง ไปตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2565  อนึ่ง หากผู้ถูกลงโทษประสงค์จะอุทธรณ์คำสั่งนี้ ให้ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือ รับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัย  สั่ง ณ วันที่ 17 มิ.ย. 2565