"อนุทิน"ส่งไลน์ยินดี "บิ๊กตู่"นั่งนายกฯ ต่อไร้ข้อสงสัย ขอทุกฝ่ายเคารพคำตัดสินศาล รธน.ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก รอสภาฯ หมดอายุ เลือกตั้งใหม่
เมื่อวันที่ 30 ก.ย.65 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ครบ 8 ปี ว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีความชัดเจนแล้ว ความกังวลต่างๆ ข้อสงสัยต่างๆ ก็จะได้หมดไป การบริหารบ้านเมืองจะได้กลับมาสู่ภาวะปกติ ความร่วมมือต่างๆ จะได้มีความเข้มแข็งขึ้น มีความมั่นคงขึ้น ดีใจที่ผลของการพิจารณาวาระของท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาเป็นเช่นนี้
เมื่อถามว่าหลังคำตัดสินออกมาได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยัง เพราะป่านนี้คงมีคนเป็นร้อยเป็นพันคนที่จะไปแสดงความยินดีกับท่าน ส่วนตัวส่งไลน์ไปแสดงความยินดีที่ท่านกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งอย่างปราศจากข้อสงสัย
เมื่อถามว่ามีกระแสสังคมออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย และมีการออกมาชุมนุมกรณีดังกล่าว นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องถือคำพิพากษ์ของศาลรัฐธรรมนูญเป็นหลัก นี่คือกติกา ไม่เช่นนั้นจะมีศาลรัฐธรรมนูญไว้ทำไม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็มีผู้พิพากษาถึง 9 ท่าน ตนก็มั่นว่าท่านคงมีการพิจารณาทุกประเด็นด้วยความเป็นธรรม ภายใต้กระบวนการยุติธรรม เราต้องยึดถือองค์กรให้องค์กรหนึ่ง หลักใดหลักหนึ่งในการถือว่าเป็นกติกาของบ้านเมือง
เมื่อถามถึงทิศทางรัฐบาล ทิศทางการเมืองหลังจากนี้มองว่าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งสำคัญจากนี้คือการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมเอเปคในเดือนพ.ย.นี้ให้ดีที่สุด เพราะจะเป็นการแสดงศักยภาพของประเทศไทยในการเปิดโอกาสต่างๆ มากมายให้ประเทศไทยในสายตาของนานาชาติ ซึ่งหากผ่านจุดนั้นไปก็เหลือเวลาไม่นานก็เข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้จะสิ้นสุดในเดือดมี.ค. 2566 เราก็ต้องทำงานให้ดีที่สุดให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และฝ่ายการเมืองก็ไปบริหารจัดการการณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทำนโยบายที่ดีที่สุดเสนอให้ประชาชนตัดสินใจ
เมื่อถามว่ากังวลว่าการเมืองหลังจากนี้จะมีความรุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่ควรมีความรุนแรง เพราะความรุนแรงไม่เคยแก้ไขปัญหาได้สักอย่างเดียว ทุกอย่าง ขอให้เราทำตามกติกาของบ้านเมือง รัฐธรรมฯคือกฎหมายสูงสุดของประเทศ ระบุไว้ชัดเจน สภาฯ ชุดนี้ อย่างไรเสียก็ตอ้งจบสิ้นในเดือน มี.ค. 2565 ไม่มีทางเกิน มีแตสั้นกว่าหากมีการยุบสภาเกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นระยะเวลาไม่ยาวนาน เราควรทำให้เกิดความสมานฉันท์ สามัคคี ปรองดอง ถ้าเราไม่ชอบรัฐบลาลชุดนี้ก็จะได้ใช้สิทธิของเราอย่างเต็มที่ในการกำหนดอนาคตของบ้านเมือง สุดท้ายอนาคตของบ้านเมืองไม่ได้อยู่ที่นักการเมือง หรืออยู่ที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือคณะใดคณะหนึ่ง แต่อนาคตของบ้านเมืองอยู่ที่สิทธิ อยู่ที่ปลายปากกาที่เราจะตัดสินใจกาในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ว่าจะให้บ้านเมืองไปในทิศทางไหน
ส่วนที่บอกว่าอายุอาจจะสั้นลง เพราะอาจมีการยุบสภาฯ เป็นเพราะมีการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันสุดท้ายคือ 23 มี.ค. 66 ไม่มีทางจะทอดไปถึงเม.ย. ถ้ายุบสภาก็ต้องมีเหตุผลหลายๆ อย่างที่ท่านนายกฯ จะตัดสินใจยุบสภาฯ ก่อนที่สภาจะสิ้นสุดวาระลง แต่ก็ขอให้เป็นไปตามครรลอง เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมืองก็จะไม่มีปัญหาอะไร