ตุรกีหันมาใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในจังหวัดอาฟริน ของซีเรีย โดยเมื่อวานนี้ ถล่มเป้าหมายไป 108 แห่ง
ตุรกีเปิดแนวรบใหม่ในสงครามกลางเมืองซีเรียที่ยืดเยื้อมาเกือบ 7 ปี เมื่อวานนี้ ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ด วายพีจี ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐในจังหวัดอาฟริน ภาคเหนือของซีเรีย ซึ่งเพิ่มโอกาสที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและสหรัฐตึงเครียดมากยิ่งขึ้น โดยเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ พันธมิตรองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต และเป็นสมาชิกของกองกำลังพันธมิตรที่ร่วมกันกวาดล้างนักรบรัฐอิสลาม หรือไอเอส อยู่ในระดับที่เลวร้ายและเข้าใกล้จุดแตกหักที่อันตรายอย่างยิ่ง
กองทัพตุรกี แถลงว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ โจมตีเป้าหมายประมาณ 108 แห่ง ของกลุ่มติดอาวุธวายพีจี ส่วนในภาคพื้นดินนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลตุรกี กล่าวว่า กองกำลังกบฏกองทัพปลดปล่อยซีเรีย ที่ได้รับการสนับสนุนจากตุรกี ให้ความช่วยเหลือในปฏิบัติการโจมตีเมืองอาฟรินด้วย ขณะที่ นายกรัฐมนตรีบีนาลี ยิลดิริม ของตุรกี กล่าวว่า ยังมีการโจมตีด้วยปืนใหญ่ และบอกว่า นับจากวันอาทิตย์นี้ กองกำลังภาคพื้นดินก็จะปฏิบัติการที่จำเป็นควบคู่กันไปด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ด้านกลุ่วมวายพีจี ระบุว่า การโจมตีทางอากาศของตุรกี ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 6 ราย และนักรบ 3 ราย และมีพลเรือนได้รับบาดเจ็บด้วย 13 คน
เมื่อวานนี้ สหรัฐออกมาแสดงปฏิกริยาต่อการโจมตีครั้งนี้อย่างระมัดระวัง โดยกระทรวงกลาโหม แถลงว่า สหรัฐเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวกับ มุ่งเน้นไปที่การต่อสู้กับกลุ่มไอเอสดีกว่า สหรัฐสนับสนุนทุกฝ่ายให้หลีกเลี่ยงการขยายความรุนแรง และให้ความสำคัญกับการกวาดล้างไอเอส ขณะที่ เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงว่า นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียและตุรกีแล้ว แต่ไม่ได้ไม่ได้ให้รายละเอียดในการพูดคุย
