ผู้ประกอบการทุกคนรู้ไหมว่าการสร้างแบรนด์ในปัจจุบันบนโลกออนไลน์นั้นมีรายละเอียดมากกว่าแค่การออกแบบโลโก้และชื่อร้าน และเพื่อเป็นการพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวดังกล่าวกันให้มากขึ้น วันนี้เราจึงได้ตัดสินใจรวบรวมสาเหตุที่ทำไมผู้ประกอบการจึงควรใส่ใจไปกับ การสร้างแบรนด์ และสรุป 3 สิ่งที่ควรทำถ้าอยากทำแบรนด์ให้ปังขึ้นมา ตามรายละเอียดด้านล่าง ดังนี้
สาเหตุที่ทำไมผู้ประกอบจึงควรใส่ใจกับการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์
ด้วยความสะดวกของโลกยุคปัจจุบันที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีร้านค้าเป็นของตัวเองได้ง่ายๆ ผ่านระบบออนไลน์ ดังนั้นการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการในยุคนี้จึงมีสูงกว่าในอดีตที่ทุกคนจำเป็นต้องมีหน้าร้านเสียก่อน ในเมื่อจำนวนของผู้ประกอบการที่จัดจำหน่ายสินค้าประเภทเดียวกับเรามีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเช่นนี้ ดังนั้นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์ของเราแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งก็คือการสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ดูโดดเด่น เพราะยิ่งลูกค้าคจำแบรนด์ของเราได้มากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งมีโอกาสดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น
3 สิ่งที่ควรทำถ้าอยากสร้างแบรนด์ให้ปัง
ถึงแม้คีย์เวิร์ดสำคัญของการสร้างแบรนด์คือ “ความโดดเด่น” แต่การสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้ แน่นอนว่าการออกแบบโลโก้และชื่อร้านให้เป็นที่จดจำเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ และด้วยสาเหตุนี้เองเราจึงอยากให้ทุกคนศึกษารายละเอียดต่างๆ ว่าด้วยการสร้างแบรนด์ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำจริงๆ เพื่อให้เราได้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด และสามารถออกแบบแบรนด์ให้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดยสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำมีทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้
กำหนดและทำความรู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
สิ่งที่เราควรทำเป็นอันดับแรกในการสร้างแบรนด์คือการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจน และทำความรู้จักกับลูกค้ากลุ่มดังกล่าวให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้เราสามารถออกแบบองค์ประกอบหลายๆ อย่างให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย เช่น การออกแบบชื่อและโลโก้ด้วยสไตล์และคำพูดที่โดนใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และการทำโฆษณาและคอนเทนต์ให้เหมาะกับความต้องการลูกค้าเป้าหมาย เป็นต้น
รู้จักตัวเองและคู่แข่ง
เมื่อกำหนดได้แล้วว่าลูกค้าเป้าหมายของเราเป็นใคร ลำดับต่อมาเราอยากจะให้ทุกคนลองมองหาจุดเด่นและจุดด้อยทั้งของสินค้าตัวเองและสินค้าของคู่แข่งให้ดี โดยสาเหตุที่เราอยากจะแนะนำให้ทุกคนศึกษารายละเอียดในส่วนก็เพราะว่าการมองเห็นถึงจุดเด่นและจุดด้อยจะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาจุดเด่นของสินค้าที่มีอยู่ให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้นได้ เช่น การนำจุดเด่นของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จมาประยุกต์และผสมผสานเข้ากับจุดเด่นของเราจนเกิดเป็นแบรนด์ใหม่ที่น่าสนใจ และกลบจุดด้อยรวมไปถึงอุดช่องว่างของสิ่งที่ขาดไปในตลาดเพื่อนำไปสู่การผลิตสินค้าที่มีทั้งความแตกต่างและความสดใหม่ในท้ายที่สุด
เลือกและสร้างช่องทางการเปิดร้านค้าให้เหมาะสม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มแต่ละวัยต่างก็มีช่องทางในการเข้าถึงสินค้าและการบริการที่ตัวเองสนใจแตกต่างกันออกไป ดังนั้นสิ่งที่เราควรศึกษาให้ก่อนการสร้างแบรนด์ดีคือการเลือกและสร้างช่องทางติดต่อลูกค้าให้ตรงตามพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย และนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าให้มีเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับต่อไป