ชาวโรฮีนจากว่า 100 คน อพยพข้ามพรมแดนจากเมียนมาเข้าบังกลาเทศอีกเมื่อวันพุธ โดยอ้างว่า กองทัพเมียนมายังเดินหน้ากวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ และยังมีผู้รออพยพอีกจำนวนมาก
ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจามากกว่า 100 คน เดินทางข้ามพรมแดนจากเมียนมาเข้าไปในบังกลาเทศ ตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยชุดล่าสุดที่บอกว่า กองทัพเมียนมายังคงปฏิบัติการกวาดล้างอยู่ในรัฐยะไข่ ของเมียนมา เพิ่มความเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับแผนการส่งกลับชาวโรฮีนจา 655,000 คน ซึ่งอพยพหนีความรุนแรงเข้าไปลี้ภัยในบังกลาเทศ ตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังรอข้ามแม่น้ำนาฟ ซึ่งไหลผ่านพรมแดน แม้ว่ารัฐบาลธากาเตรียมเริ่มกระบวนการส่งตัวชาวโรฮีนจากลับเมียนมาในสัปดาห์หน้าแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ บังกลาเทศและเมียนมา แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า พวกเขาตกลงร่วมกันว่าจะส่งตัวชาวโรฮีนจาทั้งหมดกลับเมียนมาให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี ซึ่งกระบวนการนี้จะเริ่มต้นในวันที่ 23 มกราคมนี้
ผู้อพยพกล่าวว่า พวกเขามาจากหมู่บ้านเส็ง ยิน พิ้น ในอำเภอบูตีต่อง และหลบหนี เพราะกลัวว่า จะถูกทหารเมียนมาจับกุม หากพวกเขาออกจากบ้านไปทำงาน นายโมฮัมหมัด อิสมาอิล วัย 48 ปี กล่าวว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาเห็นศพถูกแขวนคอด้วยผ้าในป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นป่าที่อิสมาอิลเคยเข้าไปเก็บของป่ามาขายในตลาด "หลังจากนั้น ผมก็ไม่เคยเข้าป่าอีกเลย และเงินของผมที่เก็บไว้ ก็หมดแล้ว เพราะฉะนั้น ครอบครัวของผมก็ไม่ได้กินอะไรมา 3 วันแล้ว" อิสมาอิล กล่าว
ด้านพันตำรวจเอก เหมียว ธู โซ โฆษกกระทรวงมหาดไทย ที่ควบคุมโดยกองทัพ กล่าวว่า ไม่มีปฏิบัติการกวาดล้างเกิดขึ้นในหมู่บ้านต่าง ๆ แต่ก็กล่าวเพิ่มเติมว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงยังคงพยายามเข้าควบคุมพื้นที่ในรัฐยะไข่อยู่ แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียด ขณะที่ ซอว์ เตย์ โฆษกรัฐมนตรีเมียนมา ไม่ได้แถลงใด ๆ ส่วนกองทัพเมียนมา เคยแถลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาแล้วว่า ได้ถอนกำลังทหารจากรัฐยะไข่แล้ว
สหประชาชาติ ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของเมียนมาในรัฐยะไข่ ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งตอบโต้กรณีที่กลุ่มหัวรุนแรงโรฮีนจาก่อเหตุโจมตีตำรวจและทหารเมียนมาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ถือเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา