สถานการณ์บริเวณพรมแดนตุรกีที่ติดกับซีเรีย ร้อนระอุขึ้นมาอีกครั้ง หลังมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐจะจัดตั้งกองกำลังที่แข็งแกร่ง ซึ่งนำโดยกลุ่มหัวรุนแรงวายพีจี ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ด ศัตรูของตุรกี ขึ้นบริเวณพรมแดนซีเรีย-ตุรกี ทำให้ตุรกีประกาศกวาดล้างทันที หากเกิดขึ้นจริง
รัฐบาลตุรกีแถลงเมื่อวานนี้ว่า จะไม่รอช้าในการใช้ปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่เขตอัฟริน ของซีเรีย และพื้นที่อื่น ๆ หากสหรัฐยังไม่เลิกสนับสนุนกองกำลังที่นำโดยชาวเคิร์ดในพื้นที่ดังกล่าว แต่สหรัฐปฏิเสธแผนการดังกล่าว และกล่าวว่า ต้องมีใครบางคนสื่อสารผิด ๆ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเทย์ยิป เออร์โดวาน ของตุรกี ย้ำเตือนว่าจะเปิดฉากบุกเขตอัฟรินในซีเรียทันที หลังทางการวอชิงตัน แถลงว่า สหรัฐจะช่วยเหลือกองทัพประชาธิปไตยซีเรีย หรือเอสดีเอฟ ที่นำโดยกลุ่มหัวรุนแรงวายพีจี ชาวเคิร์ด ด้วยการตั้งกองกำลังใหม่ขึ้นบริเวณพรมแดน มีนักรบถึง 30,000 คน ซึ่งแผนการนี้ สร้างความโกรธแค้นต่อตุรกี ซึ่งมองว่า กลุ่มวายพีจีในซีเรีย เป็นเครือข่ายของกลุ่มหัวรุนแรง พรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน หรือพีเคเค ที่ก่อความรุนแรงอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีตั้งแต่ปี 2527 โดยกลุ่มพีเคเค ถูกขึ้นบัญชีดำจากสหภาพยุโรป หรืออียู, ตุรกี และสหรัฐว่า เป็นกลุ่มก่อการร้าย
ส่วนเบกีร์ บอสแด็ก รองนายกรัฐมนตรีและโฆษกรัฐบาล กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรีว่า แผนการตั้งกองกำลังที่สหรัฐให้การสนับสนุน ถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ, บูรณภาพแห่งดินแดน และความปลอดภัยของพลเมืองตุรกี "เราย้ำว่า ขั้นตอนดังกล่าว ถือว่าผิดมาก ตุรกีหมดความอดทน ไม่มีใครจะคาดว่า ตุรกีจะทนได้มากกว่านี้แล้ว" เขากล่าว
ขณะที่ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ปฏิเสธว่า สหรัฐมีเจตนาที่จะสร้างกองกำลังตามแนวพรมแดนซีเรีย-ตุรกี และว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นการสื่อสารและอธิบายผิดพลาด "ต้องมีใครพูดผิด เราไม่ได้ตั้งกองกำลังความมั่นคงตามแนวพรมแดน" ทิลเลอร์สัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวบนเครื่องบินระหว่างเดินทางจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ไปยังกรุงวอชิงตัน สหรัฐ หลังเข้าร่วมประชุมว่าด้วยเกาหลีเหนือ