นิวยอร์ก, 6 ก.ย. (ซินหัว) — ประชาชนในสหรัฐฯ มากถึง 4 ล้านคน ต้องว่างงานเพราะอาการลองโควิด (Long COVID) หลังป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) นำสู่การสูญเสียค่าแรงอย่างน้อย 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.2 ล้านล้านบาท) ต่อปี ซึ่งถือเป็นภาระทางเศรษฐกิจอันมีนัยสำคัญในยามค่าครองชีพพุ่งสูง
ฟอร์บส์ (Forbes) นิตยสารธุรกิจของสหรัฐฯ อ้างอิงรายงานของบรูกกิงส์ (Brookings) ซึ่งใช้ข้อมูลเดือนมิถุนายนของสำนักการสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ระบุว่าปัจจุบันชาวอเมริกันวัยทำงาน 16.3 ล้านคน (ราวร้อยละ 8) ประสบภาวะลองโควิด
บรูกกิงส์ ซึ่งเป็นคลังสมองด้านสังคมศาสตร์ ยืนยันข้อมูลนี้ด้วยผลการศึกษาของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขามินนีแอโพลิส ที่พบอดีตผู้ป่วยโรคโควิด-19 ราวร้อยละ 24.1 มีอาการป่วยต่างๆ นาน 3 เดือนขึ้นไป
ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ระบุว่ามีชาวอเมริกันราวร้อยละ 70 ป่วยโรคโควิด-19 แล้ว ซึ่งสัดส่วนนี้หมายถึงมีชาวอเมริกันวัยทำงานกำลังประสบภาวะลองโควิดราว 34 ล้านคน
ส่วนผลการศึกษาเดือนกรกฎาคม 2021 จากกลุ่มความร่วมมือวิจัยแบบผู้ป่วยนำ (Patient-Led Research Collaborative) พบผู้มีอาการลองโควิดเพียงราวร้อยละ 27 ที่ทำงานด้วยจำนวนชั่วโมงมากเท่ากับที่เคยทำก่อนป่วยโรคโควิด-19 และราวร้อยละ 23 ไม่ได้ทำงานเลย เนื่องด้วยผลกระทบโดยตรงจากอาการลองโควิด