วอชิงตัน, 6 ก.ย. (ซินหัว) — สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นอ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่ากลุ่มคนผิวดำและชาวฮิสแปนิกในสหรัฐฯ มีแนวโน้มป่วยด้วยโรคฝีดาษลิงมากกว่า ทว่าได้รับวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวน้อยกว่า ขณะสหรัฐฯ พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่เข้าข่ายหรือได้รับการยืนยันเกือบ 20,000 รายแล้ว เมื่อนับถึงวันศุกร์ (2 ก.ย.) ที่ผ่านมา
รายงานจากสำนักข่าวฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ระบุว่าไม่มีประชาชนกลุ่มใดได้รับผลกระทบหนักหน่วงกว่าคนผิวดำหรือชาวละติน/ฮิสแปนิก โดยกลุ่มคนผิวดำ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 12 ของประชากรสหรัฐฯ ครองสัดส่วนผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงเกือบร้อยละ 38 ขณะกลุ่มชาวฮิสแปนิกหรือชาวละตินซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19 ของประชากร ครองสัดส่วนผู้ป่วยร้อยละ 29 เมื่อนับถึงวันที่ 27 ส.ค.
เว็บไซต์เมืองฟิลาเดลเฟีย ระบุว่าผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในเมืองร้อยละ 55 เป็นคนผิวดำ แต่มีการจัดสรรวัคซีนให้คนผิวดำเพียงร้อยละ 24 ส่วนเมืองแอตแลนตา ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงถึงร้อยละ 71 เป็นคนผิวดำ เมื่อนับถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม ทว่ามีการจัดสรรวัคซีนให้คนกลุ่มนี้ร้อยละ 46 เท่านั้น
ไชเก ดูเบนี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความเสมอภาคด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอ เผยว่าโรคฝีดาษลิง “ไม่ใช่โรคชนิดแรกที่ระบาดอย่างไม่เท่าเทียม” ในกลุ่มคนต่างเชื้อชาติ
ด้านศูนย์ฯ เสริมว่าการเหยียดเชื้อชาติ การตีตรา ความเกลียดชังคนรักเพศเดียวกัน ความยากจน และการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพอย่างจำกัด ยังคงกระตุ้นความเหลื่อมล้ำเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
(แฟ้มภาพซินหัว : ป้ายทางเข้าจุดฉีดวัคซีนป้องกันโรคฝีดาษลิงในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ วันที่ 25 ส.ค. 2022)