พท.ตั้งกระทู้บี้เอาผิดคนบงการช่วย ส.ต.ท.หญิง สงสัยมีผู้มากบารมีเกี่ยวหรือไม่ ด้าน "บิ๊กช้าง" อ้อมแอ้มเร่งสอบสวนอยู่
เมื่อวันที่ 25 ส.ค.65 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทน ราษฎร คนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้มีการพิจารณากระทู้ถามสด โดยนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดถามพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี กรณีส.ต.ท.หญิง อ้างตัวเป็นภริยาส.ว. ทำร้ายร่างกายอดีตทหารยศสิบโทที่เป็นทหารรับใช้ โดยขอถามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)ถึงการรับบุคคล ภายนอกไปรับราชการได้อย่างไร เพราะรับบุคคลที่อายุเกิน 35ปี เข้ารับราชการ อย่าตอบว่า เป็นวุฒิขาดแคลน ตำรวจหญิงคนดังกล่าวจบแค่ ปวส.ด้านบัญชี ได้อภิสิทธิ์อะไรไปรับราชการตำรวจ เริ่มต้นจากการเปิดร้านขายกาแฟ มาเป็นเซลล์ขายรถ จนมาเจอผู้มีอำนาจ อาจรักใคร่เสน่หา จึงหาช่องทางให้คนอายุ 39ปี รับราชการในสตช.ปี2560 เอาชื่อไปช่วยงาน กอ.รมน.ภาค4 อยากทราบว่าจบบัญชี มีความรู้ ความสามารถอะไร จึงได้บรรจุที่กอ.รมน. ภาค4 ให้ได้สิทธิพิเศษด้านเบี้ยเลี้ยง เงินเดือน อายุราชการ แต่ตัวอยู่ จ.ราชบุรี ใครออกคำสั่งดึงตัวไปช่วยงาน มีการใช้ช่องทางพิเศษ มีเส้นสายฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะส.ว.หรือมีตำรวจ ยศ พล.ต.อ. ทหารยศพล.อ.มาเกี่ยวข้องหรือไม่ เหตุใดไม่ให้ส.ต.ท.หญิงออกจากราชการไว้ก่อน แสดงว่า เส้นใหญ่จริง ถ้าไม่ใหญ่จริงคงไม่กล้าถามพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผบ.ตร.ที่ลงไปเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนว่า “รู้หรือเปล่า ฉันเป็นใคร” ถ้าไม่ใหญ่จริง ไม่กล้าพูดเช่นนี้
ด้านพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ชี้แจงแทนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่า ตนขอแสดงความเห็นใจกับอดีตทหารหญิงที่ถูกทำร้ายร่างกาย เหตุการณ์เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้น เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นมีการแจ้งความดำเนินคดี โดยรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงให้เกิดการสืบสวนสอบสวนโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในการบรรจุบุคคลพลเรือนเข้ารับราชการทั้งทหารและตำรวจ มีระเบียบคำสั่ง กฎที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องการบรรจุ และการแต่งตั้ง ยศ การโยกย้ายและการช่วยราชการที่ต้องยึดถือระเบียบหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ กรณีที่ไม่ดำเนินการตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่กำหนด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการลงโทษทางวินัย ทางการปกครอง และอาญา ส่วนส.ต.ท.หญิงได้บรรจุเข้ามาเป็นตำรวจชั้นประทวนนั้นได้ยึดถือตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนกรณีที่รับสมัครอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป เรื่องนี้นายกฯได้สั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการบรรจุเข้ารับราชการเป็นไปตามขั้นตอน ระเบียบและกฎ ก.ตร.หรือไม่ ส่วนความคืบหน้าของคดีทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ให้ความสำคัญ เพราะเป็นที่สนใจของประชาชนทั่วไป โดยให้ผบ.ตร.เข้าไปกำกับดูแลเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและเที่ยงตรง รวมถึงต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อลงโทษต่อไปด้วย ปัจจุบันส.ต.ท.หญิงได้ถูกแจ้งความฐานความผิดค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกาย ขณะนี้ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำจ.ราชุบรี ทุกอย่างดำเนินการไปตามกฎหมาย ไม่มีการปกป้องช่วยเหลือ
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อว่า ส่วนการไปช่วยงานที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้านั้น การจะให้ตำรวจไปช่วยงานในหน่วยงานอื่นภายนอกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดไว้ว่าในการอนุมัติกำลังพลไปช่วยหน่วยราชการใดนั้น ผู้บังคับบัญชาต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและต้องไม่กระทบกับหน่วยงานของตนเอง ซึ่งการไปช่วยราชการกอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้ามีการออกคำสั่งช่วยราชการตามขั้นตอน เพื่อให้ส.ต.ท.หญิงคนนี้ไปช่วยงานในสำนักข่าว กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อทำงานด้านการข่าวในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าก็ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า ส.ต.ท.หญิงคนนี้ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการจริงหรือไม่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้ไปจึงได้ดำเนินการส่งตัวกลับที่หน่วยต้นสังกัดเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา และทางหน่วยต้นสังกัดต้องตั้งกรรมการสอบสวน และถูกลงโทษทางวินัย ทางปกครองและความผิดในลักษณะอื่นอีกต่อไป อีกทั้งต้องถูกเรียกคืนสิทธิต่างๆที่ได้รับระหว่างไปช่วยรากชาร แต่ไม่ไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งราชการ
“เมื่อเกิดกรณีนี้ขึ้น รักษาการนายกฯได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรีดสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความกระจ่าง เมื่อวานนี้ทางตำรวจราชบุรีได้ประชุมติดตามคดีอยู่ตลอดเวลา แต่การทำคดีต้องมีพยานหลักฐาน และมีกรรมการมาสอบสวนโดยเร็วเพื่อให้เกิดความกระจ่าง เพื่อลงโทษกรณีที่มีการกระทำความผิด” พล.อ.ชัยชาญ กล่าว