โฆษก ตร.แจง ส.ต.ท. ใช้วุฒิ ปวส.เข้ารับราชการตอนอยู่ 39 ปี

2022-08-23 12:51:22

โฆษก ตร.แจง ส.ต.ท. ใช้วุฒิ ปวส.เข้ารับราชการตอนอยู่  39 ปี

Advertisement

โฆษก ตร.แจง ส.ต.ท. ใช้วุฒิ ปวส. บัญชีเข้ารับราชการเมื่อปี 60 ตอนอยู่  39 ปี 

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 65  พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.หญิงทำร้ายทหารหญิง ว่า ประมาณต้นปี 2559 ผู้เสียหายและผู้ต้องหารู้จักกัน จากการสอบปากคำต้นปี 64 มีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เนื่องจากทำงานไม่ถูกใจ และต้นปี 65 มีการทำร้ายมากขึ้น จึงขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่และน้าสาว จึงให้ญาติพาเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นสอบปากคำผู้เสียหายและพยาน คัดกรองแยกผู้เสียหายตามความผิดเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ลักษณะการค้าทาส มีการตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ก่อนเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู้คดีดังกล่าว ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นข้าราชการกระทำความผิดค้ามนุษย์บังคับใช้คนในลักษณะคล้ายทาส  การทำร้ายร่างกายและจิตใจผู้อื่น ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ในการควบคุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้สอบปากคำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนการดำเนินการทางวินัย กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 (บก.ส.1) ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ดำเนินการควบคู่ทางคดีอาญา โดยผู้ต้องหาไม่ได้มารายงานตัวตามระเบียบเมื่อต้องคดีอาญาเนื่องจากถูกคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดราชบุรี

ส่วนกรณีตำรวจหญิงเข้ารับราชการอายุ 39 ปีนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าวเข้ารับราชการตำรวจปี 2560 ใช้วุฒิ ปวส. ด้านบัญชี ย้ายมาที่สันติบาล เมื่อเดือน ก.พ. 65 ในสังกัดสำนักงานงบประมาณและการเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สงป.ตร.) โดยพิจารณาผู้มีคุณสมบัติตามวุฒิขาดแคลน ถึงแม้ระบุว่าอายุไม่เกิน 35 ปี แต่มีข้อยกเว้นตามกฎ ก.ตร. สามารถดำเนินการได้ แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการดำเนินการรับเข้ารับราชการถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่ามีผู้ต้องหามีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่นนั้น ยืนยันว่าอยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอำนาจยืนยันว่า ดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกันตามกรอบกฎหมาย ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือใคร เป็นข้าราชการต้องคดีต้องรับโทษมากกว่าคนทั่วไป กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำผิดส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดภาพรวมทั้งหมดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)