ฟาร์มโวยหมอฉีดหมาหน้าเบี้ยวก่อนขอเปลี่ยนตัวใหม่

2018-01-15 23:40:38

ฟาร์มโวยหมอฉีดหมาหน้าเบี้ยวก่อนขอเปลี่ยนตัวใหม่

Advertisement

เจ้าของฟาร์มปอมเมอเรเนียนชุมพรโวยหมอใน กทม.ซื้อหมาไปทรมาน 4 เดือน ฉีดสารเคมีที่หน้าจนบิดเบี้ยว ก่อนขอเปลี่ยนตัวใหม่อ้างส่งหมาผิดปก ไม่เหมือนกับที่ตกลงไว้ทั้งสี ลักษณะ เล็งเอาผิดตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่บ้านเลขที่ 228 หมู่ที่ 10 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งเปิดเป็นฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนชื่อดังของภาคใต้ Dog Landmark นายอุดมศักดิ์ สกุลประดิษฐ์ อายุ 31 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อ 6 เดือนที่แล้วได้รับการติดต่อจากแพทย์คนหนึ่งใน กทม.ขอซื้อหมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียนเพศผู้อายุ 2 ปี 1 ตัว ทางเฟซบุ๊ก จึงได้ทำการถ่ายวิดีโอสุนัขตัวที่จะส่งไปขายจนลูกค้าพอใจ ตกลงซื้อขายกันในราคา 1 แสนบาท หลังจากซื้อขายกันเสร็จ ผ่านไปร่วม 4 เดือน แพทย์คนดังกล่าวโทรมาต่อว่าส่งหมาผิดปก คือไม่เหมือนกับที่ตกลงไว้ทั้ง สี และลักษณะของหมา ก็พยายาอธิบายว่าหมาเมื่ออายุมากขึ้นก็ต้องเป็นไปตามลักษณะของหมาแต่ละตัว แต่เมื่อต่อว่าหนักๆจึงยอมเปลี่ยนหมาตัวใหม่ไปให้ ภายในวันเดียวกันกับที่ผู้ซื้อส่งหมาคืนมา


"เมื่อหมามาถึงฟาร์มพบว่า หมาตัวดังกล่าว ถูกทารุณกรรมอย่างหนัก อาทิ บริเวณใบหน้ามีการฉีดสารเคมีทั่วทั้งใบหน้า ทำให้เนื้อบริเวณปากทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน ใบหน้าบิดเบี้ยวผิดรูป ตาเป็นฝ้าจนมองแทบไม่เห็น เกิดสารตกค้างใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตา บริเวณลำตัว มีการใช้สารเคมีกัดสีขน จนขนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้หมา ไม่สามารถวิ่งหรือเดินได้ตามปกติ เมื่อวิ่งก็จะวิ่งไปชนสิ่งของต่างๆ เนื่องจากความผิดปกติของตา ไม่สามารถรับแสงสว่างได้ จึงได้พยายามรักษาจนดีขึ้น หลังจากนั้นจึงได้ข้อมูลจากเพื่อนๆในเฟซบุ๊กว่า แพทย์คนดังกล่าวมีพฤติกรรมทรมานหมามาแล้วจำนวนมาก จนถึงตายก็มี อาทิ หมาพันธุ์บูลด็อกตายมาแล้ว บางตัวใบหน้าเละเทะ ด้วยการใช้กาวตราช้างทาบริเวณใบหน้าเพื่อทำให้เกิดรอยย่นมากขึ้นจนหมามีใบหน้าเปลี่ยนไป จึงได้นำเรื่องหมาของตนเองที่ถูกทารุณกรรมมาเปิดเผยในเฟซบุ๊กทำให้ ได้รู้พฤติกรรมของแพทย์ผู้ซื้อหมา"นายอุดมศักดิ์ กล่าว


นายอุดมศักดิ์ กล่าวอีกว่า แพทย์คนดังกล่าวจะซื้อหมาไปเพื่อผสมพันธุ์ขาย หมาที่ซื้อจากตนไป 4 เดือนคือเอาไปผสมเสร็จแล้ว อาจเห็นว่าหมาตัวดังกล่าวหมดประโยชน์ จึงหาทางจะเปลี่ยนหมาตัวใหม่ แล้วอ้างว่าหมามีอาการผิดปกติ จึงหาทางส่งคืนมายังฟาร์ม โดยอ้างว่า หมาผิดไปจากข้อตกลงเมื่อได้ปรึกษากับพี่น้องที่ร่วมกันทำฟาร์ม เห็นว่าเป็นการดิสเครดิตฟาร์มของตน จึงได้นำเรื่องไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและได้ติดต่อกับ “วอทซ์ด็อก” เพื่อหาทางเอาผิดกับแพทย์คนดังกล่าวต่อไป