สาวใจเด็ด เล่านาที บีบไข่ - ลากมาไขประตู โวยไม่ได้สมยอม ขออีกฝ่ายยอมรับความจริง

ระหว่างดื่มเที่ยว เขาก็ไม่ได้มีพฤติกรรมเลวร้าย?
เอ : ไม่ค่ะ ปกติทุกอย่าง ดูน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ ดูภูมิฐานค่ะ

หลังจากนั้นผับเลิกกี่โมง?
เอ : ตีสี่เกือบตีห้าค่ะ เป็นช่วงที่เขาเปิดไฟประมาณนี้

ผับอะไรปิดตีสี่ มันเปิดเกินเวลาเหรอ?
เอ : ในแชตก็บอกเวลาว่าที่นี่เปิดดึกค่ะ

หลังจากนั้นยังไงต่อ?
เอ : เขาชวนหนูกับเพื่อน ไปกินยำ แต่ร้านยำปิด พี่เขาก็ชวนไปกินข้าวต้ม พอพี่เขาลงไปก็บอกว่าไม่มีข้าวต้ม มีแต่ก๋วยเตี๋ยว ไปกินหมูกระทะกันมั้ย หนูก็ถ้าพี่ไป พี่ต้องส่งหนูด้วย เขาอาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงเพื่อนหนูด้วย ไปกันหลายคนหนูก็เลยไป ในร้านหมูกระทะเขาก็ปกติดีทุกอย่าง ไม่ได้อะไรกับหนู จนจะเช้ามืด กินหมูกระทะเสร็จ เขามีการไปส่งบีที่บ้าน ซึ่งขับรถเร็วมาก

เขามีอาการเมามั้ย?
เอ : ไม่นะคะ ปกติดีทุกอย่าง

แล้วมีอะไรผิดสังเกต?
เอ : เขาขับเร็วผิดปกติหลังไปส่งเพื่อนหนู และเปลี่ยนเส้นทาง หนูก็ถามว่าพี่จะไปไหน เขาก็บอกว่าไปบ้านพี่ไงครับ หนูก็บอกว่าเอ้า ไม่ได้บอกจะมานี่ ทำไมไม่ไปส่งหนูที่ห้อง เขาบอกไปดื่มเป็นเพื่อนพี่ก่อน เครื่องดื่มเหลือตั้งเยอะ

เขาพาเราไปที่ไหน?
เอ : ที่บ้านเขาค่ะ มีรั้ว เขาก็ขับรถเข้าไปเลย สักพักนึงก็รีบวิ่งลงจากรถ พยายามเปิดประตูรถ แต่เปิดไม่ออก สักพักเขาก็วิ่งมาหาหนู หนูเลยพยายามเอากระจกหมุนขึ้น แต่เอาขึ้นไม่ได้ พี่เขาเลยเดินมาเปิดประตู บอกว่าปะ ลงจากรถ หนูก็ถามว่าลงไปไหน หนูก็บอกว่างั้นอย่ามาแตะต้องตัวหนู เขาบอกจะลงดีๆ หรือจะให้อุ้มลง

เรารู้แล้วว่าเขาคิดไม่ดีกับเรา?
เอ : ค่ะ แต่ก็ยังชั่งใจตัวเอง หนูไม่กล้าโวย ประตูบ้านกับประตูรถอยู่ติดกันเลยค่ะ ลงไปแค่ก้าวเดียวก็เข้าบ้านเลย หนูก็เลยเดินลงไป แล้วไปนั่งตรงโซฟาสักพักนึง พี่เขาก็พยายามเอาน้ำเย็น เอาโน่นเอานี่มาให้ดื่ม หนูก็บอกว่าไม่ หนูจะกลับห้อง ไปส่งหนูเดี๋ยวนี้นะ เขาบอกว่าไม่ อยู่กับพี่ก่อน พี่อยากมีเพื่อนคุย จนหนูทนไม่ได้ หนูก็ลุกขึ้น กำลังไปเปิดประตู พี่เขาก็กระชากหนูเข้าไปในห้อง หนูก็เหนี่ยวประตูและขาอีกข้างก็เกาะประตูไว้ แต่เขาดึงแรง สุดท้ายก็กระชากเราเข้าไปได้ หลังจากนั้นหนูล้มลงไปตรงที่นอน เขาบอกว่าเนี่ย ทำไว้เพื่อหนูเลยนะ หนูก็บอกว่าไปส่งหนูเลยพี่ เขาก็พยายามเอาเก้าอี้มากันประตูไว้ไม่ให้เราออก ทุกครั้งที่ลุกขึ้น เขาก็จับตัวหนูไว้ รั้งไว้ไม่ให้ไป หลังจากนั้นเขาก็ชวนคุย แต่ไม่ได้คุยเกี่ยวกับหนู เขาก็คุยเรื่องของเขา สักพักนึงเขาก็เดินมาหอมผมหนู ตอนแรกก็ตกใจ มาหอมผมหนูทำไม หนูมีแฟนแล้วนะ พี่ทำกับหนูแบบนี้ไม่ได้ หนูด่าเขาเลยค่ะ เขาก็บอกว่าถ้าได้เป็นแฟน คงขี้อ้อนน่าดูเนอะ เขาพูดแบบนี้ แล้วก็ถามว่าทำหน้ามามั้ย หลังจากนั้นก็เอาผ้าห่มเขามาปิดขาให้หนู เพราะหนูใส่กางเกงขาสั้น เอาเสื้อแขนยาวมาให้ใส่



พยายามทำตัวเป็นสุภาพบุรุษให้ไว้ใจ เป็นวิธีการผู้ชายอีกประเภทนึง มันลอบจัด พยายามแสดงสปิริตของผู้ชาย ให้ดูอบอุ่น ให้ดูแมน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ มันซ่อนมีดอยู่ แล้วยังไงต่อ?
เอ : มันเช้าแล้วค่ะ เขาก็เอาผ้าเล็กๆ ไปปิดหน้าต่างให้มืดกว่าเดิม หนูก็อยู่ไม่เป็นสุขแล้ว เดินวนไปวนมา หนูบอกจะไปเข้าห้องน้ำก่อน เขาก็บอกว่าเดี๋ยวพาไป เขาก็รั้ง จนเขาพยายามดึงหนูไปโอบไว้ สักพักเขาบอกว่าพี่ขอไปช่วยตัวเองในห้องน้ำได้มั้ย หนูก็บอกว่าได้ แต่อย่ามาทำอะไรหนูนะ อย่าแตะต้องตัวหนู ก็เอาผ้าห่มคลุมตัวเองไว้ เขาก็ลุก แต่ไม่ได้ไปเข้าห้องน้ำ หนูก็รอจังหวะเมื่อไหร่เขาจะไปจะได้ออกจากห้องนี้ เขาล็อกหมดทั้งประตูรั้ว ประตูบ้าน ประตูในห้อง หลังจากนั้นสักพักเขาบอกว่าน้องพี่ขอช่วยตัวเองต่อหน้าน้องได้มั้ย หนูเลยบอกว่าได้ พี่จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่ามาแตะต้องตัวหนู หลังจากนั้นเขาก็เริ่มถอดเสื้อผ้าตัวเอง ตอนนั้นก็เริ่มวางแผนในใจ แต่ก็ยังกลัวอยู่ ยังร้องไห้ สั่น ขอร้อง ยกมือไหว้เขา ให้เขาไปส่ง แต่เขาไม่ยอมไปส่ง เขาเปลี่ยนเรื่องตลอด จนเขาขึ้นมาคร่อมหนู พยายามล่วงละเมิดเรา หนูก็ร้องไห้เสียงดังเลย เขาบอกว่ายิ่งหนูร้องไห้ก็ยิ่งอยากเอาชนะหนู หนูก็เลยเริ่มใจเย็น ถ้ายิ่งสู้เขาก็ยิ่งทำ งั้นเดี๋ยวหนูช่วยให้พี่เสร็จเอง ก็ออกอุบายแบบนี้ หลังจากนั้นก็ยืดเยื้ออยู่สักพักนึง เขาก็นอนลง ให้หนูจับของเขา หนูก็ตัดสินใจจับแล้วบีบ กระชากให้เขาไปเปิดประตูให้หนูเดี๋ยวนี้ เขาบอกว่าประตูบ้านไม่ได้ล็อก หนูก็บอกว่าแต่ประตูรั้วมันล็อกอยู่ เขาก็บอกว่าปล่อยพี่ก่อน พี่ถึงจะไปเปิดให้ ถ้าหนูปล่อยเขาก็ต้องทำร้ายหนู หนูก็เลยไม่กล้าปล่อย ก็จับเขาอยู่อย่างนั้นแล้วกระชากแล้วดึงเขาออกมาให้เปิดประตูให้

กระชากเขาออกมาถึงประตูรั้วหน้าบ้านเลยอ่ะนะ?
เอ : ไม่ถึงประตูรั้วค่ะ ตรงกลางบ้างตรงโซฟาก่อนเกิดเรื่อง พอสบโอกาสก็วิ่งออกมา แล้วปีนรั้ว หลังจากนั้นไปเจอพี่ที่อยู่หน้าปากซอย เขาก็ถามว่าเป็นอะไร หนูก็เลยเล่าให้เขาฟัง ผู้ชายคนนั้นก็ขับรถตามหนูมา บอกว่าจะพาไปส่งที่หอ แต่หนูไม่กล้าไปกับเขาแล้ว พี่ที่แกช่วยหนู เหมือนแกดูรู้ แกเลยบอกเขาว่าผมไปส่งน้องเขาเองครับ ไม่ต้องเป็นห่วง เขาก็บอกว่าเดี๋ยวฝากส่งเพื่อนผมด้วยนะครับ เดี๋ยวผมเติมน้ำมันให้ก็ได้

ล่าสุดน้องแจ้งความเรียบร้อย ปรากฏฝ่ายชายมาพูดอีกแบบ เขาบอกน้องสมยอม ระหว่างอยู่ในห้องน้องบอกเขาว่ายังไง?
เอ : หนูบอกเขาว่าหนูจะแจ้งความ ถ้าเขาทำอะไรหนู เขาบอกว่าจะแจ้งได้ไง ก็หนูมากับพี่เอง หนูอายุเกินแล้วด้วย ไม่ได้พรากผู้เยาว์ซะหน่อย

ทนายแก้ว : บ้าไปแล้ว คนละเรื่องกันแล้วครับ

หลังรอดมาได้ มีพลเมืองดีมาช่วย ประเด็นที่เกิดขึ้น เขาโทรหาหนูว่าอะไร?
เอ : เขาโทรมาบอกว่าเขาเป็นห่วงเห็นหนูกระโดดกำแพง อยากไปส่งหนู เขาไม่ได้ทำร้ายหนูด้วย เขาพยายามไปส่งหนูด้วยซ้ำ



เขาพยายามบอกว่าอย่าเอาเรื่องเขาเลย เขาไม่ตั้งใจ?
เอ : พี่เขาโทรมาเจรจาเรื่อยๆ แล้วตุ้มหูหนูหลุดตอนต่อสู้กับเขา เขาบอกว่าเขาเจอตุ้มหูหนูหลุดนะ จะเอาไปคืนได้ที่ไหนบ้าง หนูก็บอกว่าหนูอยู่กับพี่ เขาก็ถามว่าพี่กลับยัง พยายามชวนหนูไปกินข้าว

เราได้เล่าให้แฟนฟัง?
เอ : เล่าค่ะ

ทนายแก้ว : เขาทึกทักไปเอง การที่น้องเขาไปดื่มด้วย บอกน้องเขาสมยอมไม่ได้ การตั้งข้อหาดูที่ผลกระทำนั้นๆ หมายความว่าผู้ชายคนนี้เขามีการทำร้ายร่างกายหนูหนึ่งข้อหาแล้ว หน่วงเหนี่ยวกักขังหนู ส่วนการข่มขืนยังไม่เข้าถึงขนาดข่มขืน เพราะอวัยวะเพศไม่ได้ล่วงล้ำปากทวารหนักอวัยวะเพศของผู้หญิง แต่ที่ผิดคงผิดข้อหาอนาจาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ข้อหานี้ข้อหาหนัก กรณีที่น้องเขามีการบีบอวัยวะเพศชาย ผมนับถือใจตรงที่น้องเขามีสติ ถ้าน้องเขาต่อยหรือทำอย่างอื่น อาจถูกทำร้ายมากกว่านี้ จุดอ่อนผู้ชายอยู่ตรงนั้น ถ้าเราไปทำร้ายตรงนั้นเขาอาจหยุดได้ ถ้าทำตรงอื่นเขาอาจทำร้ายมากกว่านี้ ส่วนการที่น้องพูดว่าน้องจะช่วยเขามันเป็นกลอุบายของเรา ถือเป็นการป้องกันตามมาตรา 68 เขาเรียกว่าภยันตรายที่ใกล้มาถึงและกระทำไปไม่เกินกว่าเหตุ การกระทำนั้นไม่มีความผิดครับ สิ่งที่น้องทำคือเป็นสิ่งที่วิญญูชนทั่วไปที่จะเลือกกระทำ ณ เวลานั้น ไม่จำเป็นที่น้องต้องไปต่อยเขา บางครั้งบางคนสภาวะทางจิต การตัดสินใจแต่ละคนแตกต่างกัน หลักกฎหมายบอกว่าเป็นการป้องกันไม่เกินกว่าเหตุ ไม่มีความผิด ส่วนน้องต้องไปแจ้งความกลับเขา ข้อหาทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว หรือกรณีการอนาจาร ก็จะมีโทษไป

อยู่ในสายกับ พ.ต.อ.เทียมชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผู้กำกับการสภ.เมืองสุรินทร์ คดีน้องไปถึงไหนแล้ว?
พ.ต.อ.เทียมชัย : พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งไปแล้ว เดี๋ยวจะเรียกคู่กรณีนัดมาตกลงกัน

น้องเขาไม่ยอม จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด?
พ.ต.อ.เทียมชัย : เรื่องนี้ผมสั่งการให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำเพิ่มเติมแล้วครับ นัดหมายเรียบร้อยแล้วครับผม

จะมีการเจรจา น้องจะว่ายังไง?
เอ : หนูเจรจาคนเดียวไม่ได้ค่ะ ต้องสอบถามญาติผู้ใหญ่หนูว่าเขาโอเคมั้ย

ถ้าแจ้งข้อกล่าวหา จะแจ้งข้อหาอะไร?
พ.ต.อ.เทียมชัย : จากพนักงานสอบสวนต้องสอบเพิ่มเติมก่อน เพราะรายละเอียดเรื่องนี้ต้องสอบด้วยความละเอียดนิดนึง ณ เวลานี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะแจ้งข้อหาอะไรได้ แต่นัดสอบปากคำแล้วครับ



ถ้าวันที่ 15 ฝ่ายชายไม่มา จะทำยังไง?
พ.ต.อ.เทียมชัย : เราจะพิจารณาดูว่าข้อเท็จจริงเข้าข้อกฎหมาย ผิดกฎหมายข้อไหนบ้าง เราจะได้พิจารณากันอีกที

เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีการดำเนินคดี จะไกล่เกลี่ยแค่นั้นก่อน?
พ.ต.อ.เทียมชัย : ทางเราได้รับแจ้งแล้ว ก็เป็นไปตามขั้นตอนครับ

ท่านทราบมั้ยว่าในพื้นที่มีผับเปิดถึงตีสี่ตีห้า?
พ.ต.อ.เทียมชัย : ไม่มีครับ เราสั่งเจ้าหน้าที่ตร.ออกกวดขันทุกคืนทุกวัน

เห็นน้องให้ปากคำไปแล้วว่าผับเลิกตีสี่?
พ.ต.อ.เทียมชัย : ไม่มีครับ

ทนายแก้ว : แปลกใจที่การออกหมายเรียกผู้ต้องหา ต้องมีการตั้งข้อกล่าวหาก่อน ซึ่งข้อกล่าวหาของน้องไม่ได้แปลกพิสดารอะไร เป็นเรื่องปกติ ที่ตร.ตั้งข้อกล่าวหาได้อยู่แล้ว แต่ในบางข้อกล่าวหาน้องต้องไปแจ้งความเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขัง เรื่องทำให้ตุ้มหูเสียหาย ก็ต้องเรียกค่าเสียหาย เรื่องที่เขาจะไปแจ้งความว่าน้องบีบเจ้าโลกเขา น้องก็ต่อสู้ไปว่าน้องป้องกันตัว ไม่ต้องกังวลครับ



ตร.บอกจะเรียกมาไกล่เกลี่ยก่อน?
ทนายแก้ว : แปลกครับ แบบนี้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ต้องแจ้งข้อกล่าวหา แต่นี่ไม่แจ้งข้อกล่าวหา แต่เรียกมาไกล่เกลี่ย ก็คงพยายามประนีประนอม ในข้อหาที่ประนีประนอมได้ เช่นข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย ไม่ได้รับอันตรายสาหัส ก็อาจไกล่เกลี่ยให้ชดใช้ค่าเสียหายได้

ธงของเรื่องนี้ น้องต้องการยังไง?
เอ : หนูต้องการให้เขาออกมายอมรับความจริงค่ะ ไม่ใช่ไปพูดว่าหนูสมยอมค่ะ แม้แต่ตัวเขาเอง ยังไม่กล้าออกมาพูดความจริงด้วยซ้ำ

ผกก.บอกว่าไม่มีนะ ผับปิดตีสี่?
เอ : แต่แชตที่พี่ผู้ชายชวนหนูเขามียืนยันนะคะว่าผับนี้ปิดตีสี่

ทนายแปลกใจ ทำไมไม่แจ้งข้อกล่าวหาก่อน?
ทนายแก้ว : ถูกครับ เพราะมันชัดเจน พยานก็มี ไม่มีอะไรซับซ้อน

ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา บอกรอไปไกล่เกลี่ย?
ทนายแก้ว : อย่างที่ผมพูด คงเป็นบางข้อกล่าวหาที่เป็นความผิดที่ยอมความกันได้ ส่วนบางข้อหาต้องดูพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่การป้องกันเป็นเรื่องปกติที่น้องเขาต้องป้องกัน เพราะเป็นภยันตรายที่มาถึง ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

แม่เขาติดต่อน้องมา พยายามไกล่เกลี่ย แต่น้องบอกขอไปดูข้อกฎหมายก่อน?
เอ : หนูบอกว่ารอไปไกล่เกลี่ยที่โรงพักค่ะ