"อนุทิน"ชม 10 ปีสถาบันวัคซีนแห่งชาติ สร้างความมั่นคงให้ประเทศ ช่วยคนไทยรับวัคซีนทันเวลา
เมื่อวันที่ 11 ส.ค.65 ที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และ นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เข้าร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนาสถาบันวัคซีนแห่งชาติครบรอบ 10 ปี
นายอนุทินปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "บทบาทของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กับก้าวต่อไปเพื่อความมั่นคงด้านวัคซีนของประเทศ" มีใจความตอนหนึ่ง ว่า ขณะนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้รับอนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างอาคารใหม่ของสถาบันเอง จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อขยายการให้บริการของสถาบันวัคซีนแห่งชาติเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ สถานการณ์โรคโควิด 19 ทำให้สถาบันวัคซีนฯ ได้รับการยกระดับ และทำให้รัฐบาลเห็นความสำคัญในการสนับสนุน โดยเฉพาะงบประมาณในการวิจัยพัฒนาวัคซีนโควิด 19 ภายในประเทศ เช่น คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วัคซีนของบริษัทใบยาฯ หรือบริษัทไบโอเนท-เอเชีย เป็นต้น รวมถึงการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ทำให้ทุกวันนี้ประเทศไทยมีวัคซีนครบทุกแพลตฟอร์ม ทั้งชนิดเชื้อตาย ไวรัลเวกเตอร์ mRNA และโปรตีนซับยูนิท มีวัคซีนเข้ามาดูแลประชาชนตามแผน Roadmap ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่มีมาตรฐาน
"ที่ผ่านมาสถาบันวัคซีนแห่งชาติมีการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์โควิด 19 เช่น การเสนอให้ฉีดสูตรไขว้ หรือการฉีดวัคซีนใต้ผิวหนังที่ช่วยให้มีวัคซีนฉีดได้เพิ่มขึ้น 10 เท่า หากไม่ได้รับการจัดส่งวัคซีนตามที่ต้องการ ซึ่งทั้งหมดที่กระทรวงสาธารณสุขและสถาบันวัคซีนแห่งชาติดำเนินการก่อประโยชน์มหาศาลให้กับประชาชน ทำให้ประเทศเกิดความมั่นคงด้านวัคซีน เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี ขอให้บุคลากรทุกคนของสถาบันฯ ได้ภาคภูมิใจ และขอให้เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน โดยยึดงานวิชาการและความปลอดภัยสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก รวมถึงให้ข้อมูลสนับสนุนการออกนโยบายแก่กระทรวงสาธารณสุขได้" นายอนุทิน กล่าว