"เสี่ยบี-ภรรยา"เปิดใจหลังเกิดโศกนาฎกรรมไฟไหม้ Mountain B ยอมรับผิดดัดแปลงร้านเป็นผับโดยไม่ขออนุญาต เครียดถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย พร้อมบวชให้ผู้เสียชีวิต 15 รายหลังเคลียร์ทุกอย่างจบ
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 65 ที่หน้าผับ Mountain B อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จุดเกิดเหตุโศกนาฏกรรมไฟไหม้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 38 ราย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา โดยนายพงศ์ศิริ ปั้นประสงค์ หรือ "เสี่ยบี" อายุ 27 ปี เจ้าของผับ พร้อมด้วย นางอนงค์นารถ ปั้นประสงค์ อายุ 31 ปี ภรรยา ได้เปิดใจต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมตอบข้อซักถามที่สังคมสงสัย
ทั้งนี้นายพงศ์ศิริ และภรรยา ได้ยกมือไหว้ กล่าวขอโทษและเสียใจ ต่อทุกฝ่ายกับสิ่งที่เกิดขึ้น โดยยอมรับจากใจว่า ในเวลานั้น อยากจะชวนกันไปฆ่าตัวตาย ไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่า ในชีวิตจะต้องมาพบกับเหตุการณ์เช่นนี้ ต้องขอโทษทางญาติผู้เสียชีวิต ญาติผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมด ได้โปรดอโหสิกรรมอย่าได้อาฆาตพยาบาท เพราะเชื่อว่า ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ส่วนการเปิดผับนั้น นายพงศ์ศิริ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ร้าน Mountain ที่เปิดเป็นร้านอาหารโล่ง และมีดนตรีสด ได้ถูกชาวบ้านร้องเรียนว่า ส่งเสียงดังสร้างความรำคาญ จึงได้ตัดสินใจนำเงินเก็บที่ได้จากการเปิดธุรกิจร้านแห่งนี้ รวมถึงร้านหมูกระทะและเขียงหมู มาลงทุนเปิดเป็นผับ Mountain B เพียงแค่คิดว่า ต้องการร้านที่มีความเก็บเสียง ไม่สร้างปัญหาให้กับชาวบ้านอีก ซึ่งยอมรับว่า ผิดจริงที่ได้ดัดแปลงร้านเป็นผับ โดยไม่มีการขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน ขอยืนยันชัดเจนว่า ร้านที่ก่อตั้งขึ้นนั้น ไม่มีนอมินี นายทุนใหญ่ หรือผู้มีอิทธิพล หนุนหลังเปิดร้านแห่งนี้ขึ้นแน่นอน เงินที่สร้างขึ้นมานั้น เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรง ที่ได้ร่วมกันเก็บเงินมาในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ส่วนเรื่องเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างให้ครอบครัว กำลังหาเงินมาช่วยเหลือเยียวยาให้มากที่สุด เบื้องต้น ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 50,000 บาท ส่วนผู้บาดเจ็บจ่ายรายละ 10,000 บาท ส่วนจะจ่ายสินไหมให้รายละเท่าไหร่นั้น ยังไม่ตั้งธงไว้ในใจ เพราะเนื่องจากว่า แต่ละครอบครัวก็มีความคิดต่างกัน นั่นคือ เรื่องของอนาคต แต่ไม่ทอดทิ้งชดใช้อย่างแน่นอน
นายพงศ์ศิริ กล่าวด้วยหลังจากนี้ จะยังคงเปิดร้าน Mountain ซึ่งเป็นร้านอาหารมีดนตรีสด และร้านหมูกระทะ ที่อยู่ติดกัน เพราะสงสารพนักงานที่มีอยู่จำนวนมาก หากไม่ดำเนินธุรกิจต่อ ทุกคนคงต้องตกงาน และได้รับความเดือดร้อน อยากขอความเห็นใจจากทุกคนในสังคม ให้โอกาสได้ทำหน้าที่ เพื่อหาหนทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเดือดร้อน ให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีที่สุด
นอกจากนี้ นายพงศ์ศิริ ระบุด้วยว่า หลังจากจบเรื่องและเคลียร์ทุกอย่างจบ ตั้งใจจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิต 15 ราย