อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงคัดค้านการขึ้นค่าโดยสารรถสาธารณะ พร้อมตำหนิรัฐบาล ทอดทิ้งประชาชน อุ้มแต่นายทุน
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงคัดค้านกรณีที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เตรียมเสนอปรับขึ้นค่าโดยสารรถเมล์ 2 บาท ว่า ชาวกรุงเทพฯ เดือดร้อนจากภาวะทางเศรษฐกิจตกต่ำอยู่แล้ว อีกทั้งคนจนก็ถูกทอดทิ้ง โดยที่ภาครัฐอุ้มแต่เครือข่ายเจ้าสัวและนายทุนใหญ่ การส่งสัญญาณให้เสนอขึ้นค่ารถเมล์ถือเป็นการสิ่งกเประชาชน ทั้งนี้ยังอาจรวมไปถึงการขึ้นค่ารถไฟ และตั๋วการบินไทยในขณะนี้ จึงถือเป็นการขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน ทั้งนี้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีอำนาจอยู่ในมือก็ไม่ควรใช้อำนาจดัวกล่าวมากดขี่ประชาชน เพราะประชาชนประสบความยากลำบากจากการบริหารงานของรัฐบาลที่ไร้ฝีมือ
ขณะที่บรรดานายพลกลับใส่นาฬิกาเรือนละกว่า 10 ล้านบาท แต่ทำไมมาขูดรีดเงิน 2 บาทต่อประชาชน จึงถือว่าไม่เป็นธรรม เราจะคัดค้านแทนประชาชนต่อไป
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันในกรณีที่บอร์ด ขสมก. อนุมัติเห็นชอบผลการประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารประจำทางที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง NGV จำนวน 489 คัน ราคากลาง 4,020 ล้านบาท จากบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) นั้น ส่อเป็นการทำสัญญาที่ผิดกฎหมายและทุจริตหรือไม่ เพราะเป็นวงเงินที่สูงกว่าเดิม โดยราคากระมูลเดิมอยู่ที่ 3,800 ล้านบาท ดังนั้นทำไมจึฃปล่อยให้บริษัทเดิมประมูลได้ในราคาสูงขึ้น ถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติและไม่ประหยัดงบแผ่นดิน
ทั้งเรื่องการซื้อเรือดำน้ำเรือดำน้ำโดยไม่ฟังเสียงประชาชน รวมถึงทุ่มเทงบต่างๆจำนวนมาก แต่ไม่ตกถึงประชาชน ถ้าไม่ซื้อเรือดำน้ำกว่า 3 หมื่นล้าน ก็สามารถจัดรถเมล์ฟรีให้ประชาชนได้ถึง10 ปี และขอเดินหน้ายื่นคัดค้านต่อนายกรัฐมนตรี และสหภาพแรงงาน ขสมก. ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกรณีดังกล่าว