สถาบันนิติเวชวิทยาพร้อมชันสูตรศพหยื่อไฟไหม้ "เมาน์เทน บี" ก่อนส่งมอบร่างคืนญาติ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ส.ค. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา พ.ต.อ.พงศกร ฐิตโชติ นายแพทย์ (สบ5) หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ กล่างถึงการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล กรณีมีผู้เสียชีวิตในเหตุไฟไหม้ผับเมาน์เทน บี จ.ชลบุรี ว่า เบื้องต้นได้รับการประสานจากตำรวจ สภ.พลูตาหลวง ว่า มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ส่วนผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 13 ราย โดยแยกเป็นชาย 9 ราย หญิง 4 ราย สภาพศพของผู้เสียชีวิตมีการไหม้ไฟ ทั้ง 13 ราย พอจะดูจากใบหน้าเบื้องต้นพิสูจน์ได้ว่าน่าจะมีเอกลักษณ์และมีชื่อได้ 11 ราย ส่วนอีก 2 ราย ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ทั้งนี้เมื่อศพมาถึงแล้วสิ่งสำคัญที่สุดในภารกิจของสถาบันนิติเวชวิทยา นอกจากจะหาสาเหตุการเสียชีวิตของผู้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว จะต้องพิสูจน์เอกลักษณ์ให้ได้ว่าผู้ตายเป็นบุคคลเหล่านั้นจริงหรือไม่ ก่อนส่งมอบร่างคืนให้ญาติ
พ.ต.อ.พงศก กล่าวต่อว่า กระบวนการพิสูจน์โดยปกติจะมีศพที่ต้องทำการผ่าพิสูจน์ในรายวันอยู่แล้ว กรณีศพที่เสียชีวิตจากเหตุภัยพิบัติปริมาณมากในครั้งนี้ จะตั้งกรรมการมาพิสูจน์โดยเฉพาะอีกชุดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ ช่างภาพ นักวิทยาศาสตร์ ตำรวจในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะเร่งตรวจ 11 ศพที่ทราบตัวแล้ว ซึ่งจะมีการตรวจหาสารพิษ แอลกอฮอลล์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือด ซึ่งเป็นสารพิษที่ทำให้เลือดแข็งตัว เชื่อว่า ภายใน 1-2 วัน จะส่งมอบร่างคืนให้กับญาติไปบำเพ็ญกุศลได้ ส่วนอีก 2 ศพ ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้ จะประสาน สภ.พลูตาหลวง ค้นหารายชื่อบุคคลสูญหาย และพิสูจน์ตัวบุคคล ก่อนเชิญญาติมาเทียบเคียงดีเอ็นเอ ทั้งนี้หากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจากเหตุการณ์นี้ ควรมีการส่งศพมาให้ สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อเป็นแนวทางเดียวให้กับพนักงานสอบสวนทำสำนวนคดี
ส่วนการเสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้จะมี 3 สาเหตุหลักๆ คือ สำลักควันไฟ ร่างกายถูกไฟไหม้ และอวัยวะได้รับบาดเจ็บจากการถูกของแข็งกระแทก เช่น การถูกเสา หรือสิ่งของขนาดใหญ่ล้มทับ ระหว่างหลบหนี