ตร.เร่งล่าแก๊งกราดยิงที่ จ.อุบลราชธานีมาดำเนินคดี เผยนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกแต่ตกลงกันไม่ได้ สาดกระสุนใส่กันสุดท้ายตาย 2 เจ็บ 5
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.59 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุกลุ่มคนยกพวกทำร้ายร่างกายกันโดยใช้อาวุธปืนในการก่อเหตุเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายที่ บริเวณลานจอดรถห้างบิ๊กชี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี จากนั้น พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ คงศักดิ์ตระกูล ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.อภินันท์ ปลื้มมะลัง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี พ.ต.ท.ธีรเจต ต่อน้อย สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี ร.ต.ท.เกียรติชาติ สาโท รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ้ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายป้องกันปราบปรามและเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.อุบลราชธานี ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้ทำการปิดกั้นและตรวจสอบพบว่า บริเวณที่เกิดเหตุเป็นลานจอดรถหน้าร้านอาหาร โดยพบปลอกกระสุนปืนและหัวกระสุนปืนตกกระจาย อยู่ทั่วบริเวณที่เกิดเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 5 รายถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลและมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย คือ นายโชคทวัตร พันธ์กว้าง อายุ 38 ปี และ นายตะวัน ธรรมใจ อายุ 22 ปี นอกจากนี้รถยนต์ กับรถจักรยานยนต์ที่จอดในบริเวณที่เกิดเหตุถูกยิงได้รับความเสียหาย
พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องหากับพวกที่หลบหนีมีเรื่องโกรธเคืองกับกลุ่มของ นายโชคทวัตร ผู้ตาย กับพวกที่หลบหนี ได้มาเจรจาไกลเกลี่ยกันที่ร้านเกิดเหตุ โดยได้นำพวกมาด้วยพร้อมอาวุธจำนวนหนึ่ง ปรากฏว่าระหว่างตกลงกันได้เกิดเหตุผู้ต้องหายิง นายโชคทวัตร ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้นำอาวุธปืนมายิงใส่กัน เป็นเหตุให้นายตะวัน ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 คน หลังเกิดเหตุทั้ง 2 ฝ่ายได้หลบหนีไป ทั้งนี้ นายภิวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) ได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนโดยให้การรับสารภาพ
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 ได้เดินทางไปติดตามคืบหน้าและเรียกประชุมแนวทางในการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนและติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาที่ได้ร่วมกันก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย รวมถึงให้ดำเนินการตามหลักยุทธวิธีพร้อมคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการพิสูจน์ทราบถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุพบว่ามี 10 ราย ซึ่งได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 3 ราย ในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน พ.ศ. 2490 รวมถึงความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป