"พิธา" ค้านควบรวม "ทรู-ดีแทค" ส่อทำค่าโทรศัพท์พุ่งถึง 40% ชวนจับตา กสทช.ลงมติชี้ชะตา 10 ส.ค.
เมื่อวันที่ 4ส.ค.65 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงว่า จุดยืนพรรคก้าวไกลขอเรียกร้องไปยังบอร์ดคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีอำนาจยับยั้งการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค ซึ่งการควบรวมดังกล่าวจะทำให้ผู้เล่นรายใหญ่จาก 3 รายเหลือ 2 ราย และจะมีส่วนแบ่งของตลาดเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการผูกขาดกิจการอุตสาหกรรม นอกจากนี้ในการศึกษาวิเคราะห์ของคณะอนุกรรมการ กสทช. 4 ชุด ที่ตั้งขึ้นมาโดยบอร์ด กสทช. ได้แก่ 1.อนุฯด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง 2.อนุฯด้านเศรษฐศาสตร์ 3.อนุฯด้านเทคโนโลยี และ4.อนุฯด้านกฎหมาย ต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ควรอนุญาตให้มีการควบรวม ทรู -ดีแทค เพราะจะเกิดการผูกขาด และ กสทช.มีอำนาจเต็มในการยับยั้งการควบรวมกิจการครั้งนี้
นายพิธา กล่าวต่อว่า จากความคิดเห็นที่หลากหลายของฝ่ายวิชาการ ภาคประชาชน เท่าที่ตนตรวจสอบ หลังจากการควบรวมทรู-ดีแทคมีโอกาสที่จะทำให้ค่าโทรศัพท์มือถือของเราแพงขึ้น 12-40 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงจะทำให้เกิดการผูกขาดข้อมูลทั้งการซื้อ รับชม จ่ายบิล และโอกาสในการแข่งขันเพื่อสร้างหรือพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลน้อยลง อย่างไรก็ตาม ในวันที่10ส.ค.นี้ ที่กสทช.จะมีการลงมติว่าจะอนุมัติให้มีการควบรวมกิจการทรู-ดีแทค หรือไม่นั้น ตน และคณะก้าวหน้า นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า จะเดินทางไปพบสื่อมวลชนเพื่อนำเสนอข้อมูลดังกล่าวให้มากขึ้น ยืนยันว่าพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ประชาชน