"บิ๊กป้อม" ตรวจราชการ จ.นครพนม กำชับฝ่ายความมั่นคง คุมเข้มยาเสพติดชายแดนริมโขง รับฟังเบาะแสจากทุกแหล่งในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน พร้อมลงพื้นที่มอบสิทธิ์ที่ทำกินแก่ชุมชน มุ่งให้ ปชช.อยู่ดีกินดี
เมื่อ 1 ส.ค.65 พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.นครพนม เพื่อติดตามการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ภาคอีสาน และเป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล(คทช.)
ต่อมาเวลา 14.00น. พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางถึง ห้องประชุมพระธาตุพนม ศาลากลาง จ.นครพนม มีนาย ชาญชัย คงทัน รอง ผวจ.นครพนม ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปสถานการณ์ด้านการป้องกันและแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.นครพนม ร่วมกับจังหวัดอื่นๆรวม 7จังหวัด ตามแนวชายแดนในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งจากนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำหนดให้การแก้ปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ และเนื่องจากการจับกุมกดดันจากเจ้าหน้าที่ พื้นที่ภาคเหนือมีมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา การลำเลียงลักลอบยาเสพติด มีแนวโน้มมาทางภาคอีสานมากขึ้น ดังนั้น จ.นครพนมจึงได้กำหนดแผนปฎิบัติการ ชื่อว่า "ยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง" เพื่อบูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองให้มีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ แม้ในห้วงที่ผ่านมา จะมีการจับกุมยาเสพติดได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีช่องทางการลักลอบ จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในประเทศไทย หลากหลายวิธี เช่นกัน
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชม จ.นครพนม ที่ได้กำหนดมาตรการรับมือป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยอาศัยความร่วมมือร่วมใจ จากทุกภาคส่วน ของจังหวัด กระทั่งประสบผลสำเร็จ อย่างน่าพอใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่จังหวัดอื่นๆได้ด้วย จากนั้นได้กล่าวมอบนโยบายที่สำคัญ แก่ จังหวัด อำเภอ ผู้บริหารองค์กรณ์ปกครองส่วนท้องถิ่น และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยกำชับให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ทำความเข้าใจประมวลกฎหมายยาเสพติด อย่างจริงจัง และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้อง ทุ่มเท เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต ไม่รับผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนจะต้องถูกลงโทษ อย่างเด็ดขาด พร้อมยินดีรับฟังหากมีข้อมูลหรือเบาะแส ยาเสพติดจากแหล่งต่างๆรวมทั้งฝ่ายการเมืองในพื้นที่ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาต่อไป สำหรับมาตรการป้องกันจะต้องสร้างการตระหนักรู้ให้คนไทย ประชาคมโลกเห็นถึงผลร้าย และโทษของยาเสพติด ส่วนมาตรการบำบัดรักษาจะต้องนำผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ฟื้นฟู ตามประมวลกฏหมายยาเสพติด พร้อมทั้งให้ผู้ผ่านการบำบัด ฟื้นฟู มีการอบรม ทักษะ ความรู้ในอาชีพโดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่า ผู้ติดยาเสพติด คือ ผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการดูแล บำบัดรักษา และฟื้นฟู ให้กลับคืนสู่สังคม อย่างดีที่สุด
จากนั้น พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังหอประชุม รร.โพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม โดยเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ในพื้นที่ จ.นครพนม พร้อมชมการแสดงต้อนรับจากนักเรียน ร.ร.โพนสวรรค์ราษฎร์พัฒนา ต่อด้วยการรับฟังรายงานความเป็นมา ภูมิสังคม และผลการดำเนินงาน การจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ซึ่งภาพรวม จ.นครพนม มีเนื้อที่เป้าหมายจัดที่ทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 6 พื้นที่ เนื้อที่รวม 106,907-2-33 ไร่ ดำเนินการอนุมัติแล้ว 4พื้นที่ เนื้อที่ 55,185-3-31ไร่ มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิ์แล้ว 4,684ราย จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้กับ รอง ผวจ. นครพนม จำนวน 3แห่ง และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ให้กับผู้แทนประชาชน จำนวน 5คน โดยมีตัวแทนกลุ่มประชาชนได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร และรัฐบาลที่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน ซึ่งตนและชาวบ้านเคยได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีพ ที่มีความเหลื่อมล้ำ และเพิ่งจะได้รับสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย จากรัฐบาลปัจจุบันในวันนี้ จึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง และจะมุ่งมั่นทำมาหากินอย่างสุจริต ด้วยความพากเพียร และจะพึ่งตนเองให้ได้ ตามหลักปัญาเศรษฐกิจพอเพียง ต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ที่ทำกินในชุมชน พร้อมกำชับ คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดิน จ.นครพนม ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ไฟฟ้า ประปา และเส้นทางคมนาคม พร้อมเร่งดำเนินการส่งเสริมอาชีพ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ โดยใช้แนวทางสหกรณ์ จากนั้นได้พบปะพี่น้องประชาชนที่มาให้การต้อนรับ อย่างอบอุ่น เป็นจำนวนมาก พร้อมอวยพรขอให้ประชาชนปลอดภัยจากโควิด-19 และมีความอยู่ดีกินดี มีความสุขกันทุกคน