แม่โชกุนยันทำธุรกิจสุจริต ไม่เคยเจอนายทุนฮ่องกง

2017-04-18 14:00:48

แม่โชกุนยันทำธุรกิจสุจริต  ไม่เคยเจอนายทุนฮ่องกง

Advertisement

แม่โชกุนยืนยันลูกทำธุรกิจสุจริต ปัดไม่เคยเจอนายทุนฮ่องกง ส่วนเครื่องบินเช่าเหมาลำเป็น1ในธุรกิจของลูกสาว
ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 คุมตัว 8 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ซ่องโจร  ได้แก่ น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 35 ปี หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน ,  นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 55 ปี มารดาซินแสโชกุน  , นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 22 ปี ลูกพี่ลูกน้องของซินแสโชกุน , นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 40 ปี เลขานุการของซินแสโชกุน , นางณิชมน แสงประภา อายุ 64 ปี ป้าของซินแสโชกุน และมารดาของนายก้องศรัณย์ , นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 35 ปี ,  น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 25 ปี   และนายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 30 ปี  ผู้ร่วมในเครือข่ายของนางสาวพสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน   มาส่งมอบให้กับพลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรามหณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ที่กองบังคับการปราบปราม ซึ่งเมื่อมาถึง ทั้งทหารและตำรวจ ได้นำตัวมาผู้ต้องหาทั้ง 8 ไป ตรวจร่างกายกับแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกาย และตรวจสอบทรัพย์สิน ที่ติดตัวผู้ต้องหามาตั้งแต่ในชั้นจับกุม มาส่งมอบ พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดทนายความ 4 คน จากสภาทนายความมาช่วยในคดี
        
 โดยนางมณฑญาณ์ และ ผู้ต้องหาทั้งหมด ได้ให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และไม่มีการชักชวนในเขิงการขายทัวร์ไปเที่ยวฟรี แต่เป็นเพียงการเชิญชวนให้สมัครสมาชิกและช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศสักครั้งในชีวิต   ส่วนที่ตัวเองมีภาพปรากฎอยู่ในเครื่องบินเช่าเหมาลำนั้น เพราะ ลูกสาวบอกว่า ทำธุรกิจเครื่องบินเช่าเหมาลำ  ในระหว่างเส้นทางระหว่าง มาเก๊า - ฮ่องกง  ซึ่งภาพที่นั่งนั้นเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์



 ส่วนกรณีเมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่มีการลอยแพสมาชิกนั้น อ้างว่า เครื่องบินที่นายทุนชาวฮ่องกงเป็นผู้จัดการเรื่องการเช่าเครื่องบินให้ แต่ไม่สามารถลงจอดได้ และไม่สามารถเปิดเผยชื่อสายการบินได้ ส่วนที่มีภาพโฆษณาว่าการไปเที่ยวครั้งนี้ไปกับสานการบินต่างๆนั้นจะดำเนินการฟ้องกลับบุคคลที่ไปอ้างว่าเป็นการขายทัวร์และตนเองจะดำเนินการฟ้องกลับกับบุคคลที่ ที่ไปอ้างว่าเป็นการขายทัวร์  ส่วนนายทุนชาวฮ่องกงที่ระบุว่าเป็นเป็นผู้ลงทุนธุรกิจอาหารเสริมและทัวร์นั้นไม่เคยเจอหรือพูดคุย  เคยเห็นแค่เพียงภาพถ่ายเท่านั้น 


อย่างไรก็ก็ตาม ต้องหาทั้ง 8 ยังเชื่อว่าโชกุนไม่ได้มีพฤติการณ์หลอกลวงใคร และยังยืนว่าการทำธุรกิจของลูกสาวเป็นไปอย่างสุจริต



ส่วนนางสาวประนอม เลขาส่วนตัว ระบุว่า ตนไม่เคยเชิญชวนประชาชนไปเที่ยวต่างประเทศ ทำเพียงแค่เป็นชวนสมัครสมาชิก ส่วนการไปเที่ยวญี่ปุ่นนั้นเป็นโปรโมชั่นที่โชกุนเป็นคนคิดขึ้นมา โดยอ้างว่าได้เงินจากนายทุนชาวฮ่องกงเป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด
 
ขณะที่นางสาวทัศย์ดาว เพื่อนสาวคนสนิทระบุว่า เคยไปเที่ยวต่างฮ่องกงและญี่ปุ่นจริงกับบ.เวล เอเวอร์ จริง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีการบงเชิญชวนในลักษณะการขายทัวร์ พร้อมปฏิเสธว่าลูกทีมที่สมัครสมาชิกนั้นโอนเงินเข้าบัญชีตน และเคยได้ค่าคอมมิชั่นจากการขายอาหารเสริมประมาณ 2.8 แสน

 ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ บอกว่า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะทำการสอบปากผู้ต้องหาทั้งหมดถึงความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์กับซินแซโชกุน และธุรกิจทัวร์  ซึ่ง หากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนความเชื่อมโยงกับนายทุนฮ่องกง ที่ซินแสโชกุนอ้างว่าเป็นนายทุนในการทำธุรกิจอาหารเสริมและท่องเที่ยวนั้นหากหลักฐานเชื่มโยงไปถึง ก็พิจารณาขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติมต่อไป และขณะนี้ได้มีการยึดทรัพย์สินต่างของโชกุล กว่า 15 ล้านบาท



อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการสอบปากคำทั้ง8คนเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวน ก็จะควบคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง

ส่วนประมาณราคาทรัพย์สินมีค่าที่ได้จากการตรวจยึด มี 17 รายการ รวมมูลค่า 12,254,150.95  บาท อาทิ ห้องพักเลขที่ 286/381 ดิโฮเทล คอนโดมิเนียม มูลค่า 2.3 ล้านบาท รถยนต์ ยี่ห้อเมอร์ซิเดนซ์เบนซ์ รุ่น SL350 มูลค่า 2.3 ล้านบาท รถยนต์ ยี่ห้อ RENGE ROVER รุ่น EVOQUEz SD4 มูลค่า 2.3 ล้านบาท กล้องถ่ายรูป sony รุ่น A6500 พร้อมเลนซ์ 3 อัน มูลค่า 300,000 บาท นาฬิกาโรเล็กซ์ รุ่น DATEJUST 31 Oyster 31 มม. มูลค่า 580,000 บาท เป็นต้น
 
ทั้งนี้ ในจำนวนทรัพย์สินที่อายัดไว้ มีบัญชีเงินฝากธนาคารรวม 3,284,150.95 บาท ชื่อบัญชี น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ จำนวน 3 บัญชี ชื่อบัญชี น.ส.ภวิศ ภูริภัทร์เมฆินทร์ ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ น.ส.พสิษฐ์   ชื่อบัญชี นางประนอม พลานุสนธิ์ 1 บัญชี และ ชื่อบัญชี  น.ส.สิริธนัตถ์ รติวสุธัญกุล 1 บัญชี