"อมรัตน์"อภิปรายนายกฯ พร้อมมอบกระจกให้ส่องสะท้อนตัวเอง เจอ "บิ๊กตู่"สวนกลับไม่ค่อยได้ใช้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่า ธ์เป็นบุคคลผู้มีอำนาจ แต่ขาดความสามารถ และความรับผิดชอบ ตนขออภิปราย 3 ประเด็นคือ1.จงใจปล่อยปละละเลยให้เกิดเครือข่ายทุจริตในกองทัพอย่างกว้างขวาง 2.สร้างความเสื่อมเสียกับพระเกียรติยศในโครงการเทิดพระเกียรติ และ 3.มีจิตสำนึกเผด็จการสันดานทรราชย์ หลังรัฐประหารแล้วยังจงใจบ่อนทำลายการปกครองและระบอบประชาธิปไตยต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางอมรัตน์ ยังได้อภิปรายถึงโครงการก่อสร้างบ้านพักรับรองผู้บัญชาการทหารเรือหลังใหม่ พร้อมรื้อถอนบ้านพักหลังเดิมวงเงิน 65 ล้านบาท โดยช่วงหนึ่งของการอภิปรายนางอมรัตน์ ได้มีการยกกระจก ระบุว่า สุดท้ายที่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ สิ่งนั้นคือกระจกบานนี้ เพราะท่านปิดคอมเมนต์ในเพจเฟซบุ๊ก ชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ซึ่งประชาชนไม่มีสิทธิ์ที่จะสะท้อนความรู้สึกไปยังท่านได้ ตนอยากบอกว่ากระจกบานนี้เวลาที่ท่านชี้หน้าใครบอกว่าก่อความวุ่นวายก่อความไม่สงบให้มองที่กระจกบานนี้ เวลาที่ท่านเที่ยวชี้หน้าใครบอกไม่มีมารยาท ไม่รักชาติให้มองที่กระจกบานนี้ และเวลาที่ท่านว่าใครไม่อ่านประวัติศาสตร์ก็ให้ท่านมองที่กระจกบานนี้ ทั้งหมดคนคือในกระจก
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ใช้โอกาสไปกราบสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาถวายธูปเทียนพรรษา และตนก็ได้ ขอแบ่งขอมอบให้กับทุกคนด้วย เนื่องในช่วงเวลาอันเป็นมงคลนี้ให้กับทุกคนด้วย เนื่องในช่วงเวลาอันเป็นมงคลนี้กับทุกคนทุกท่าน ก็สุดแล้วแต่ว่าใครจะรับได้รับไม่ได้ก็แล้วแต่ เพราะว่าทุกอย่างก็เป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมดีก็ย่อมได้รับกรรมดี ทำกรรมไม่ดีก็คงปรากฏต่อไป ตนก็จะพยายามทำอย่างเต็มที่ทำให้ดีที่สุด แต่อาจจะไม่ดีในสายตาของท่าน ก็ไม่เป็นไร ตนเห็นว่าท่านก็เคลื่อนไหวอยู่ข้างนอกตลอดเวลา ท่านบอกว่าท่านศึกษาประวัติศาสตร์ ก็ดีครับ ท่านก็ศึกษาประวัติศาสตร์ส่วนที่ดีไว้บ้าง ก็แล้วกันสิ่งที่ท่านทำหลายๆ อย่างก็ปรากฏแล้วว่าเป็นเรื่องของการเกี่ยวข้องกับการก้าวล่วงสถาบันของชาติ ซึ่งตนรับไม่ได้อยู่แล้ว และตนจำเป็นต้องพูด
นอกจากนี้นายกฯ ยังระบุ ถึงเรื่องกระจกด้วยว่า ส่วนในเรื่องกระจก ผมไม่ค่อยได้ใช้กระจก ทำให้นางอมรัตน์ ได้ลุกขึ้นประท้วงขอใช้สิทธิ์พาดพิง โดยระบุว่า เมื่อสักครู่ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงตนว่าก้าวล่วงสถาบันตรงไหน และข้อหามาตรานี้ผิด มีโทษร้ายแรง อยู่ดีๆ จะมาปากพล่อยว่าคนอื่นอย่างนี้ได้อย่างไร อย่ามั่ว เที่ยวพูดตีขลุมแบบนี้ ก่อนที่ได้ นานชวนหลีกภัย ประธานในที่ประชุมจะปิดไมโครโฟนของนางอมรัตน์
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงอีกครั้งว่า เวลานางอมรัตน์พูดอะไรมาทั้งหมด ตนก็ฟังได้ และท่านก็ฟังตนบ้าง ตนไม่ได้ว่าอะไรที่เกินความเป็นจริงเท่าไหร่ ว่าไปดูในคดีต่างๆ ก็มีอยู่หลายคดีเหมือนกัน ก็ไปเตรียมต่อสู้คดีเอาแล้วกัน ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นประท้วงอีกครั้งว่า นายกรัฐมนตรีได้พาดพิงโดยขอให้ถอนคำพูด โดยระบุว่ามาตรา 112 เป็นมาตราร้ายแรง จะมาเที่ยวป้ายให้ใครแบบนี้ได้อย่างไร นี่ก็เอาเด็กไปเข้าคุกไม่ยอมปล่อยไม่ให้ประกัน อย่ามั่ว ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้พูดสวนกลับมาว่า ผมไม่ได้ป้าย ผมไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับกระบวนการ ทำให้นางอมรัตน์ ลุกขึ้นกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีถอนคำพูด โดยนายกรัฐมนตรีได้สวนกลับว่า ผมไม่ถอน
จากนั้นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ต้องปิดไมโครโฟนของนางอมรัตน์อีกครั้ง และกล่าวว่าขอให้ฟังประธาน โดยนายชวนกล่าวว่า เราอภิปรายเขาก็หนัก เพราะฉะนั้นก็ไม่มีอะไรที่จะต้องถอน โดยขอให้นายกรัฐมนตรีนั้นอภิปรายต่อ และตนคิดว่าดีที่สุดคือเราต้องระมัดระวัง